วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551

เที่ยวอิตาลี - สวิส 14 - 19 กันยายน 2008

วันนี้บินไปกับสายการ Etihad ด้วยเครื่องโบอิ้ง 777 ที่นั่งสบาย แบบ 3/3/3 กับคณะนักศึกษา พา
มาหลายรุ่นแล้ว มีบินไปก่อนชุดหนึ่ง ไปกับเรา 25 คน มีอาหารค่ำบริการบนเครื่องและแอร์คนไทยเห็นมีหลายคน ไม่ห่วงเรื่องภาษาแล้ว บินราว 6 ชม. ไปต่อเครื่องที่อาบูดาบี้ อีกเกือบ 3 ชม. สนามบินเล็ก มาก
เป็นวงกลม เดินแป๊ปเดียวก้อหมด บินต่ออีก 6 ชม. ลงที่มี่มิลาน 7 โมงเช้า ออกมาข้างนอกแล้ว ไปดูรถบัสจอดใหน เจอคนขับอิตาเลี่ยน ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ พวกนี้เขี้ยวสุด ๆ คำแรกที่ถามก่อนเลย มีทิปให้มันวันล่ะ 2 ยูโรต่อคนใช่หรือเปล่า เอากะมันสิ ยังไม่ทันทำงานเลย พวกมาฟอร์มนี้เจอบ่อย
ออกจากสนามบินดิ่งตรงไปเวนิสเลย ลูกค้าเล่าให้ฟังว่าถูกผู้ก่อการร้ายรุ่นเยาว์บอมส์ อึแตกนะสิ ไฟท์ก้อแน่น ขยับไปใหนไม่ได้ ทนจนถึงมิลาน น่าสงสาร นอนกันไม่ค่อยหลับเลย ไปถึงเมสเตร ฝั่งด้านแผ่นดินใหญ่ ไปจุดเช็คพ้อยส์ก่อน หมายถึงเป็นที่ต้องซื้อใบอนุญาติเข้าเมือง ถ้าไม่ได้พักที่นี่เสีย 340 ยูโร
แพงมาก ๆ ที่อิตาลีนี่รถบัสเสียค่าเข้าเมืองทุกเมือง ถึงร้านอาหารเที่ยงกว่า อาหารจีนที่ร้าน พาโกด้า ไม่อร่อยเลย ทานเสร็จลงเรือไปเที่ยวเวนิส มีเวลา 3 ชั่วโมงที่เกาะ เวลาไม่แน่นไปกำลังเดินเที่ยวสบาย ผ่าน
อนุเสาวร์วิกเตอร์ ที่2 เล่าให้ฟังบนรถแล้ว ว่าประวัติเป็นยังไง อิงไปถึง พระบรมรูปทรงม้า ของไทยเรา พึ่งจะอ่านจากหนังสือ พระพุทธเจ้าหลวงในโลกตะวันตก อ่านแล้วดีมาก ๆ เอาไปเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ประกอบทัวร์
ยุโรปได้ (ขอบคุณ เพื่อนจากมติชน อนุเคราะห์หนังสือ หักคอมา ) ผ่านสะพานเฮ้อ สะพานถอนหายใจ
พาไปดูหน้าโบสถ์ซานมาโก เล่าเรื่องราวเฉพาะที่เห็นในส่วนหน้า ส่วนข้างในคิวเข้าแถวยาวเหยียด พาไป
สะพานเรียวโต้ สะพานเก่าแก่ที่สุดของเวนิส สร้างข้ามคลองใหญ่ จากนั้นก้อให้เวลาเดินเล่นกันเอง ห้าโมง
เย็นลงเรือ ข้ามกลับไปฝั่ง นั่งรถอีกชั่วโมงครื่ง ทานอาหารที่เวโรน่า เป็นร้านจีน ดูอาหารดีเลย พักที่โรงแรม
เวสพอยส์ นอกเมืองห้องใหม่ ใช้ได้ดีทีเดียว เจอเพื่อนที่มาก่อนวันหนึ่ง รวมคณะกันแล้ว ออกไปหาไวน์ดื่ม
ข้าง ๆ โรงแรมชื่อเม็กซิกันบาร์ คนเยอะที่นั่งเต็มหมด ได้มุมตรงเคาร์เตอร์ โอเคเลย เพื่อนคอเบียร์เราไวน์
ซื้อดื่มเป็นแก้ว ๆ ราคาเท่า ๆ เบียร์แหละ ห้าทุ่ม ง่วงแล้วกลับไปนอนดีกว่า

เวโรน่า - มิลาน - Engelberg
ตื่นตอนนาฬิกาปลุกพอดี 5.45 จิบกาแฟ อ่านหนังสือนิดหน่อย อาหารเช้าใช้ได้แต่เติมช้าเหลือ
เกิน 8 โมงเดินทางชมเมืองเวโรน่า เริ่มจากสนามกีฬาโคลอสเซียม ที่นี่เรียก เอรีน่า สวยสมบูรณ์กว่าในโรม
แต่เล็กกว่า ปัจจุบันใช้แสดงดนตรีซะมากกว่า เดินผ่านถนนช้อปปิ้ง ดีที่ยังไม่เปิด ไม่งั้นคงติดอยู่แถว ๆ นี่แหละ เห็นร้านค้ากันไม่ค่อยได้ ให้เวลาเล็กน้อยที่จัตุรัส Elbe มีร้านขายของที่ระลึก ผลไม้ ผักต่าง ๆ แบบ
แผงลอย ดูบ้านของจูเลียต ในละครเรื่องดัง จากนั้นนั่งรถอีก 2 ชั่วเข้ามิลาน ทานอาหารเที่ยง นำชมวิหาร
ดูโอโม ชอปปิ้ง 4 โมงครึ่งเดินทางข้ามพรมแดนเข้าสู้สวิส ถึงโรงแรม 2 ทุ่ม พอดี โรงแรมชื่อเทอร์เรส ตั้ง
อยู่บนเนินเขารถบัสขึ้นไปลำบากเลย ห้องค่อนข้างเก่า พรุ่งนี้ไม่ให้รถขึ้นมารับใกล้ ๆ โรงแรม สงสารรถ กว่าจะกลับลำได้โยกแล้วโยกอีกจนแขนโป่งเลยทานอาหารในโรงแรม บนรถอุตส่าห์บิวส์ศิลปะการทานอาหารแบบตะวันตก แต่เจอแบบบุปเพต์เข้าไป จบข่าวเลย แหมก้อเล่นตั้ง แบบนี้ อาหารเหมือนกัน ใช่ แต่ต้องไปตักเอง หลายอย่างรวมในจานเดียว เฮ้อหมดกัน หลังอาหารชวนเพื่อนลงไปดูที่จอดรถหน่อย พรุ่งนี้เช้าจะได้เดินถูก ผ่านเมืองเงียบมาก ไม่เห็นใครเลย ว่าจะหาร้านบรรยากาศดี ๆ นั่งให้สบายใจเฉิบซะหน่อย สุดท้ายกลับมาที่รัง ก้อโรงแรมแหละ ได้ไวน์ไปหลายแก้ว หลับดีเลย

น้ำตกไรน์ - ลูเซิร์น
เช้านี้ตื่นมาอากาศดีมาก ๆ วิวสวย ประมาณลูกค้าบ่น ๆ เรื่องอาหาร เรื่องห้อง ตอนเช้านี้ลืมกันเป็นปลิดทิ้งเลย ถ่ายรูปไม่ต่ำกว่า ครึ่งชั่วโมง ถ้าไม่เร่ง ไม่ไปใหนแล้วกัน บนยอดเขายังเห็นหิมะปกคลุมอยู่ บอกแล้วมาสวิส ไม่ต้องพูดมาก เค้าขายตัวของเค้าเองได้ หมายถึงภูเขา ทะเลสาบ ทุ่งหญ้าเขียวขจีวิ่งรถไปน้ำตกไรน์ 2 ชม. ช่วงนี้น้ำมากดูอลังการดี แต่อากาศเย็นมาก มาหลายครั้งแล้ว ดูความเรียบร้อยหน่อย แล้วไปรับไออุ่นในร้านกาแฟ ค่อยยังชั่ว จากนั้นไปทานอาหารที่ลูเซิร์น ถ่ายรูปกับ สิงโตหิน แต่กำลังซ่อมแซมนิดหน่อย ดูเผิน ๆ เหมือนเจ้าหน้าที่กำลังแคะขี้ตาให้มันอยู่ สงสัยนอนนานไปหน่อย เลยถ่ายรูปไม่ค่อยสวย บ่าย อิสระ ซื้อของ ถ่ายรูปกับสะพานไม้โบราณ ทานอาหารเย็นเสร็จ กลับโรงแรม

เบิร์น - เจนีวา
วันนี้อากาศดีเหมือนเดิม อาหารเช้าที่นี่ใช้ได้ เติมเร็วดีเวลาหมด ไม่ค่อยดึงอาหารเหมือนยังบางโรงแรม คืนแรกที่นอนมีแต่จีน แต่เช้านี้มีแต่อินเดีย เต็มไปหมด ข่าวว่าคนอินเดีย รวยกันมากขึ้น มาเที่ยวกันเยอะเลย ตอนแรกนึกว่าจะวุ่นเรื่องกระเป๋า เพราะต้องให้ให้ทางโรงแรมส่งลงไปให้ที่รถบัส ปรากฏว่า โอเคไม่ยากอย่างที่คิด เมื่อตอนเช้านับจำนวนกระเป๋าดูน้อยกว่าปกติ เลยลองเช็คทีละใบว่าใครขาด นั่นเจอแล้ว โทรขึ้นไปที่ห้องบอกว่าเอากระเป๋าลงมาด่วนเจ้าหน้าที่เค้าจะขนไปที่รถให้ แต่ปรากฏว่าไม่ทัน น่าสงสารเธอต้องลากกระเป๋าอันหนักอึ่งลงเขา ว่าจะช่วยแต่พอเคลียกุญแจของคณะเรียบร้อย ดูอีกทีหายไปแล้ว แสดงว่าลากไปแล้ว ขึ้นรถได้เน้นอีกครั้ง มีใครลืมอะไรหรือเปล่า ตรวจกันดี ๆ วันนี้กลับแล้ว ไปขึ้นเครื่องที่เจนีวา ถ้าลืมคงจะมาเอายากแล้วล่ะ ไปถึงเบิร์นเมืองหลวงของสวิส เอาตอน 10 โมง แวะดูบ่อหมี ที่เป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง รวมถึงให้เข้าห้องน้ำด้วย ให้เวลา 30 นาที เล่นไปซะเกีอบชั่วโมง ก้อวิวเมืองเค้าสวยนี่นา เห็นตรงบ่อหมีกำลังปรับปรุงอยู่ จะทำเป็นสวนหมี ให้เหมือนกับธรรมชาติมากที่สุด โดยมีบางส่วนยื่นลงไปในแม่น้ำ ทำให้หมีได้ลงไปเล่นน้ำ จับปลากินได้ น่าจะอีกสัก 2 ปีเสร็จ แล้วเราจะสามารถชมมันได้ 24 ชั่วโมง ทุกวันนี้ ตกเย็นต้องเอาไปเก็บในกรง กลางคืนไม่มีใครมาดูแล
เกิดมีคนโยนอาหารที่เป็นพิษ ให้มันกินอาจแย่ได้ พาเดินชมเมือนนิดหน่อย ด้วยเวลาที่จำกัด เพราะท่านใช้เวลาจุดอื่นมากไป ที่ต่อไปก็ต้องน้อยลงไป ธรรมดาครับนอน 3 คืน 2 ประเทศ คงไม่สามารถดื่มด่ำกับ สถานที่แต่ละแห่งได้นาน ๆ เที่ยงนี้ทานอาหารฝรั่งอีกมื้อ หลายท่านก้อได้ใช้วิชาที่แนะไป จะว่าไปของแบบนี้เป็นมารยาทในโต๊ะอาหาร เคยเห็นบางคนเอาช้อนของหวานมาเป็นช้อนสำหรับทานซุป ความจริงก้อไม่ผิดหรอก แต่วัฒนธรรมก็คือวัฒนธรรมที่ทำให้มนุษย์มีการ
วิวัฒนาการ ถ้าไม่แคร์ ทำไมอีก ร้อยสิบอย่างกลับ ยอมกันไม่ได้ ไปกันใหญ่แล้วหลังอาหาร เดินทางไปชมปราสาทชิลยอง ริมทะเลสาบเจนีวา ถ่ายรูปด้านนอก วิวไม่เท่าไหร่ เราว่าต้องห่างไปไกล ๆ หน่อยสัก 300 เมตรน่าจะงาม ไปที่เจนีวากันต่อ รถส่งตรงนาฬิกาดอกไม้ พึ่งจะได้ถ่ายรูปหมู่กันที่นี่ ก่อนหน้านั้นรวมกันไม่ติดสักที น้ำพุเจทโด ยังพุ่งสูงเหมือนเดิม พาไปเดินถนนช้อปปิ้งส่งท้าย และให้หาอาหารทานกันด้วย ตอนเย็นไม่ได้จัดเลี้ยง นัด 1 ทุ่มตรง ทุกคนมาตรงเวลาแปะ ไม่น่าเชื่อ (มีขู่นิดหน่อย) ไม่งั้นอาจสายได้ สนามบิน ใกล้ ๆ20 นาทีก้อถึงแล้ว พูดสรุปทัวร์ยังไม่ทันจบเลย เช็คอินเดี่ยว เที่ยวบินนี้ว่างอีกแล้ว โชคดีจริง ๆ ลูกค้าคงจะลืมฝันร้ายตอนขามาได้บ้างแหละเป็นทริปสั้น ๆ ที่ทำง่าย ไม่มีเรื่องหนัก ๆ มาให้แก้ไข เรียบร้อยด้วยดี ทริปหน้า ปารีส 4 คืน แค่หลับตาก้อเห็นภาพหมดแล้ว แล้วเจอกัน

2 ความคิดเห็น:

ooOhhoo กล่าวว่า...

ทำไมยิ่งเขียนยิ่งสั้นลง สั้นลง ล่ะเพ่...
หรือไปที่นี่จนหลับตาเดินได้แล้ว?

ปล.คิดว่าวันนั้นคงเมาจนลืมหนังสือทิ้งไว้ซะอีก
(ขอบคุณเฉยๆได้ไง...ฮึ่มมม)

แต่ดีใจนะทีมีประโยชน์กับการทำงานน่ะ

ammyguide กล่าวว่า...

สงสัยไปบ่อย จำได้หมด เลยไม่ค่อยลงรายละเอียด
มาก เมื่อก่อนติวให้เพื่อนพวกที่ไปกันใหม่ ๆ ประเภท
หลับตาเดินได้เลย แต่หลัง ๆ ไม่ค่อยติวให้แล้ว เก่ง ๆ
กันทั้งนั้นละ