วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

รูปน่ารัก แปลก ๆ

                                   Eton collage 
                                   Swan in river Themes Winsor
                                               walking street Oxford 
                                   Stratford up on avov 
                                                Oxford
                                    Spring in Oxford

                                               Manchester wheel

Picture from Greece

                                   Fira town Santorini


                                   Red Beach Santorini



                                   Sun set at Oia Santorini



                                   Mykonos

                                   Little Venice Mykonos




                                   Parthenon


สวยมาก ๆ กับทะเลกรีซ

22/04/09--28/04/09 
              ไม่เคยคิดว่าจะได้ไป และไม่เคยคิดว่าจะไป ประมาณงานด่วนเพราะมีวีซ่าอยู่แล้ว ถือว่าส้มตกใส่
แล้วกัน ลูกค้ามาจากหลาย ๆ จังหวัด ตอนไปถึงสนามบินยังมึน ๆ อยู่เลย เที่ยวดึก เมือคืน บิน 10 ชั่วโมง
เวลาช้ากว่าไทย 4 ชั่วโมง ถึงเอเธนส์ 7 โมงเช้า เข้าเมืองเกือบ ๆ ชั่วโมงเมืองใหญ่มาก แปลกใจจริง ๆ ประชากรทั้งประเทศ 11 ล้านคน แต่มากระจุกกันที่เมืองหลวงตั้ง 5 ล้านคน 
               ตอนเช้าชมเมือง ผ่านรัฐสภา หอสมุด สนามกีฬา  วิหาร จัตุรัสซินดักมา วนไปวนมาก้อแถว ๆ นี้แหละ ฉะนั้นในเมืองทำไม่ยาก มีที่เข้าไปชม ก้อที่ อะโครโปลิส มีวิหารพาเธนอน เดินขึ้นเนินนิดหน่อย ไม่อลังการอย่างที่คิด เคยไปดูชิ้นส่วนของวิหารที่ British Museum ถ้ายอมคืนเขาไปนะ ที่นี่้่จะเจ๋งมากเลย คนมาดูกันเยอะัมาก ขนาดต้องมีเจ้าหน้าที่จัดการจราจร ห้ามจับ และเดินในส่วนที่เขาให้เดิน มีไกด์ภาษาอังกฤษ เราก้อแปลไป อ่านมาบ้างแล้วไม่ยาก แต่ลูกทัวร์ดูจะไม่ค่อนอินกับสถานที่เท่าไหร่ บวกกับอากาศเย็น ๆ ลมแรง เห็นลงไปข้างล่างกันเร็วมาก เราถือโอกาศเดินสักรอบ โอเคน่ะ เห็นวิวเมืองหมดเลย 
               ตอนบ่ายเข้าโรงแรม ใครจะไปช้อปก็นัดกันไป เดินจากโรงแรม 10 นาที ถึงห้างและร้านค้า ติดกับ
จัตุรัสซินดักม่านั่นเอง ตอนเย็นพาไปตลาดเก่าชื่อปลาก้า ขายพวกของที่ระลึก เครื่องประดับ ของที่เกี่ยวกับ
น้ำมันมะกอก ฟองน้ำ ทานอาหารค่ำเข้าโรงแรม

               วันนี้ตื่นกับเ ช้ามาก ๆ 6.15 ต้องออกจากโรงแรมเพื่อไปลงเรือที่เมืองราฟิน่า เล่นเอาเราก็งอม
เหมือนกัน ถึงท่าเรือต่างคนต่างก็ต้องลากกระเป๋าขึ้นเรือกันเอง ถ้ามีอายุจะลำบากเหมือนกับคณะเรานี้แหละ
ลำพังของข้าพก็ 2 กระเป๋าใหญ่แล้ว เสื้อผ้าใบ เสบียงอีกใบ นี่ลงทุนซื้อใหม่เพื่องานนี้โดยเฉพาะ  จ่ายไป 
6 พัน รู้ว่าลงเรือลำบากถ้าเป็นกล่องเป็นลังจะยกลำบาก มีบ่นกันนิดหน่อย เรือนั่งสบายเหมือนเรือวิ่งระหว่าง
มาเก๊า-ฮ่องกง ใ ช้เวลาวิ่ง 2.10 น. ถึงเกาะ Mykonos ได้ไปงีบหนึ่ง ถึงเกาะมีรถมารับไปโรงแรมก่อน 
เกาะน่ารัก โดยเฉพาะบ้าน มีคนอยู่กันราว ๆ 1 หมื่นคน เป็นเมืองท่องเที่ยว คล้าย ๆ ภูเก็ตบ้านเราประมาณนี้
ตอนไปทานข้าวใช้เดินตลอด ไม่ไกลมาก แต่ตอนกลับต้องเดินขึ้นเขา อาม่าก็บ่นอีกแล้ว ที่เที่ยว ไม่มีอะไร
มาก ดูวิว ดูบ้าน มีกังหันอยู่ 6 อัน สมัยก่อนใช้โม่แป้ง และมีเวนิสน้อย เหมือนตรงที่บ้านติดน้ำทั้งแถบเลย
ในมืองส่วนใหญ่เป็นร้านค้า กับร้านอาหาร มีนกพิลิแกน สัญลักษณ์ของที่นี่เลย มีแค่ตัวเดียว ไปร้านอาหาร
ขอปลากิน น่ารักไปอีกแบบ  พรุ่งนี้ให้ตื่นกันสาย ๆ ได้ บ่ายเดินทางไปอีกเกาะ

             ตื่นมาตอนเกือบ 7 โมงเช้า คราวนี้ไม่ได้เอากาต้มน้ำไปด้วย ปกติจะต้องจิบกาแฟสักแก้วก่อนแล้ว
ค่อยทำอย่างอื่น คราวนี้เลยอาบน้ำไปห้องอาหารเช้าพร้อมหอบมาม่าติดไปด้วย ขายดีทุกวัน อาหารเช้า
ที่นี่ก็ดีนะ มาตรฐานทั่ว ๆ ไป สาย ๆ เห็นตั่งวงเล่นไพ่กันแล้ว เสียดายค่าทัวร์จัง เที่ยงพาไปทานข้าว หลัง
อาหารเรากลับมาดูกระเป๋าให้รถส่งไปที่ท่าเรือ เรือออกตอน 14.45 ไปถึงที่เกาะ Santorini ห้าโมงเย็น
หน่อย ๆ ขึ้นรถไปโรงแรมเก็บกระเป๋า แล้วไปดูพระอาทิตย์ที่เมือง Oia นั่งรถไป ครึ่งชั่วโมง ระหว่างทาง
จะผ่านจุดที่แคบสุดของเกาะ กว้างสักกิโล เห็นทะเลทั้งสองฝั่ง ถึงที่เอีย เดินอีกสัก 3-400 เมตร ไปยัง
หมู่บ้าน บ้านส่วนใหญ่สร้างตามเนินเขาและหน้าผาหิน ดูแล้วคลาสสิกจริง ๆ มีนักท่องเที่ยวไปดูพระอาทิตย์
กันเยอะพอสมควร จับจองเลือกมุมกันเอาเอง ตกตอน 2 ทุ่ม สวยดี แล้วกลับมาทานข้าวที่เมือง Fira อันเป็น
เมืองที่เราพัก แล้วพาเดินกลับโรงแรม ประมาณ 900 เมตร อาม่าบ่นอีกแล้ว หรือจะนั่งแท็กซี่ ก็น่าจะคนล่ะ
ยูโรเดียว โรงแรมพอได้แต่การตกแต่งยังไม่โดนเท่าไหร่ มีสระว่ายน้ำ 2 สระ แต่ไม่มีใครเล่นหรอก หนาว
ขนาดนี้  ทุกอย่างสงบนอนดีกว่า
 
           เช้านี้พาไปนั่งเคเบิลคาร์ ลงไปท่าเรือข้างล่าง ตัวเมืองอยู่บนหน้าผาด้านบน แล้วขี่ลากลับขึ้นมา 
เราไม่ได้ลงไปด้วยหรอกรออยู่ข้างบน หาน้ำมาแจก แล้วให้เดินเล่นซื้อของ เที่ยงกว่าไปทานอาหารจีน
มีร้านเ ดียวใ นเ กาะ มื้อนี้ทำยำปลากระป๋องใ ห้ทานด้วย ลูกค้าบอกว่าอร่อย ไ ม่แ น่ใ จของเ ค้าดีอยู่แ ล้ว
หรือฝีมือเ ราดี แฮ่ ชมตัวเอง บ่ายพาไปชมเมืองเล็ก ๆ นอกเมืองเริ่ม จาก Red beach หาดแดง เห็นแล้ว
ก็แดงจริง คงมีแร่อะไรบางอย่างแถวนั้นเลยทำให้หน้าผาก้อนหินมีสีแดง ไปหาดดำ หาดที่นี่ไม่สวยสู้บ้าน
เราไม่ได้เลย ขึ้นไปชมวิวที่หมู่บ้าน Pyrgos หมดไปอีกวัน

         วันนี้กลับแล้ว ตอนเช้าอิสระ 10.30 เดินทางไปสนามบิน เข้าเอเธนส์แล้วต่อเครื่องการบินไทยกลับ
กรุงเทพ รู้สึกดีกับทะเลที่นี่ ปกติไม่ใช่คนชอบทะเลเท่าไหร่ คราวหน้าคงจะได้มาอีก

วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

อังกฤษแบบไม่ธรรมดา

ไปอังกฤษ 3 ครั้งในรอบ 2 เดือน ถือว่าเยอะเลยล่ะ แรก ๆ ที่ไปยังไม่แม่นข้อมูลเท่าไหร่ โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ ที่ค่อนข้างจะเป็นของประเทศตัวเอง ยิ่งครั้งแรกตอนไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นอาจารย์ด้วยแถมบอกด้วยว่าต้องบรรยายแบบละเอียดเลย ไม่รู้ว่าเป็นกันทั้งหมดเลยหรือเปล่าสำหรับครูบาอาจารย์ทั้งหลาย แต่ไม่เป็นปัญหา กลับมาได้ด้วยดี แถมยังบอกอีกว่าเราเล่าสนุกดี ใช้วิธีอ่านตอนกลางคืนเล่าตอนเช้า แรก ๆ ก้อจำยากต้องโน้ตชื่อบุคคลไว้ มีแอบดูนิดหนึ่ง นอกจากนั้นก็ดูแลอย่างดีเป็นปกติ
ครั้งที่ 2 ต้นเมษา เป็นคณะปริญญาเอก เที่ยวด้วยดูงานไปด้วย แต่น่าแปลก บางคนภาษาอังกฤษไม่กระดิกเอาซะเลย คืนแรกก็เป็นเรื่องซะแล้ว อาบน้ำอีท่าใหนไม่รู้ทำพรมห้องเปียก โรงแรมปรับ 100 ปอนด์เป็นค่าทำพรมให้แห้ง แถมมีหน้ามาบอกอีกว่า ทางทัวร์จะช่วยยังไงบ้าง ทั้ง ๆ ตัวเองเป็นคนทำแท้ ๆ ไม่รู้เอาอะไรคิด ตัดความรำคาญ เอ้าช่วยครึ่งแล้วกัน เรื่องไม่เป็นเรื่อง อยากจะบอกพวกที่ี่ซื้อทัวร์ไปเที่ยว ทางบริษัทไม่ได้เอากำไรอะไรมากมายขนาดนั้น ราคาทัวร์ 8-9 หมื่น บาท ใหนจะค่าตั๋วก็ปาไปเกือบครึ่งแล้ว ค่าอาหาร โรงแรม รถ อีกจิปาถะ ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ ยังไม่ถึง 5 % เลย ลองเทียบกับการขายของชิ้นหนึ่ง กำไรชิ้นละเท่าไหร่ ทำไมซีเรียสซะแล้ว เอ้าไปกันต่อวันต่อ ๆ ไปค่อยเข้าที่เข้าทาง มีไปดูงานมหาวิทยาลัย ที่ชอบสุดตอนอยู่เมืองอ๊อกฟอร์ด ที่นี่คณะไปเข้าเรียน 2 วันเต็ม ๆ เราก็ว่างสิทั้งวัน เริ่มจากเดินผ่านสวนมหาวิทยาลัย จนถึงในเมือง ที่นี่ถือเป็นเมืองมหาลัย เมืองเล็กแต่น่ารักดี มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด
ได้ชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดในอังกฤษ เกือบ 800 ปีแนะ ต่างกับมหาวิทยาลัยบ้านเราจะอยู่ในรั้วเดียวกันทุกคณะ
แต่ที่นี่ จะแบ่งเป็น College ทั้งหมด 38 College กระจัดกระจายไปในเมือง มีหอสมุดเก่าแ่ก่สวยงาม ตลาด
ถนนช้อปปิ้ง เ ดินเล่นทั้งวันเรียกว่าทะลุปรุโปร่ง บ่าย ๆ ไปนั่งอ่านหนังสือในสวน อ่านเพลินๆ ได้ยินเสียง
เหมือนมีอะไรตกใส่หลัง ตอนแรกนึกว่ากิ่งไม้ ที่ใหนได้นกมันขี้ใส่เรานะสิ เห็นเราคนแปลกถิ่นแน่ ๆ เลย
โห้เขียวอี้เลยแต่ไม่เหม็นแปลกดีเหมือนกัน ดีนะที่พกน้ำมาขวด ล้างซะ เซ็งเลย หมดอารมณ์อ่านแล้ว ตกเย็น
ไปรับคณะ ทานข้างแล้วเข้าโรงแรม อีกวันตอนเช้าส่งเข้าเรียนเสร็จติดรถกลับมานอนที่โรงแรม บ่าย ๆ ไปรับ
ดีจริง ๆ กลับมาก็ โอเค ไม่มีปัญหาอะไร

รอบที่ 3 กลับมาวันที่ 10 เมษา ต่อ 11 เมษา ยอดมนุษย์จริง ๆ คราวนี้ตรงกลับสงกานต์เมืองไทย
จึงมีทัวร์อื่น ๆ อีกเยอะแยะไมหมด ของเรา 50 คน แบ่งเป็น 2 บัส เจ้าของทัวร์ไปด้วย เลยต้องทำทั้ง 2 คัน
เริ่มเจ้าของกรุ๊ปบอกเราว่า ให้ไปพูดคันนี้นเหมือนที่พูดคันนี้ เอ้าทำทั้งหมดเลย ดีอย่างทำให้ข้อมูลแน่นปึ๊ก
เพราะพูด 2 รอบ เที่ยวตามรายการปกติ อยากเรียกว่ารายการตลาดมากกว่า ทุกทัวร์เที่ยวเหมือนกันหมด
ไปเมืองใหนก็เจอกัน สรุปเราว่าดีนะ แต่ที่ฉุนขาด ก็อีตาเจ้าของทัวร์ บอกเราตอนถึงสุวรรณภูิมิว่าทำไมเรา
ไม่พาไปถ่ายรูปที่นั้น ที่นี่ เอ้าก็ลูกค้าอยากซื้อของ แล้ววันนั้นเราก็ประกาศออกไมค์ทุกคนได้ยิน พรุ่งนี้โปร
แกรมเราจะทำอย่างนี้นะ ท่านใด อยากได้แบบใหนเสนอมาได้ คนไม่ชอบซื้อของเราก็พาไป ชม British Muzeum
จะอะไรอีก ไม่ใช่ไม่ทำตามรายการ แต่ลูกค้าต้องการแบบนี้ เราก็ควรปรับให้ดีที่สุด
รอบที่ 4 กำลังจะไปเดือนพฤษภาคม วันที่ี่ 12 เฮ้อกลายเป็นไกด์อังกฤษไปซะแล้วเรา