วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2553

ไหว้พระ 9 วัด

การเริ่มต้นที่ดี คือส่วนหนึ่งของความสำเร็จ
การทำบุญ 9 วัดไม่มีสูตรตายตัว ทั้งในเรื่องของวัดที่ควรไป หรือ ระยะเวลาลักษณะที่คล้ายกันของสูตรแต่ละสำนัก
คือ วัดมีชื่อประกอบด้วยคำมงคลที่พึงประสงค์ ส่วนจะต้องสักการะให้ครบ 9 วัดภายใน 1 วัน หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความสะดวก ส่วนตัวของผู้ปฏิบัติ สูตรที่นำมาเผยแพร่ต่อไปนี้รวบรวมจากข้อมูลโบราณ เพื่อใช้เป็นแนวทาง
พร้อมเคล็ดลับในแต่ล่ะที่

1.ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
สถานท่ีตั้งของศาลเจ้าพ่อหลักเมือง อยู่ข้างพระบรมมหาราชวัง ถนนหลักเมือง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร เชื่อกันว่าการไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเป็นการสร้างหลักชัยในการดำเนินชีวิต เพื่อเสริมความมั่นคง ของชีวิตและการทำงาน เคล็ดลับในการสักการะไม่ต้องจุดเทียนเพียงแต่จุดธูป นำผ้าแพร 3 สีผูกที่เสาหลัก เมืองจำลองและปิดทอง ขณะบูชา ให้อธิษฐานให้ตนมีหลักชัยในการดำเนินชีวิต หลังจากนั้นไหว้พระหลักเมือง องค์จริงด้วยพวงมาลัย สักการะเทพารักษ์สำคัญ 5 องค์ที่อยู่ในบริเวณเดียวกันทางตะวันออกของศาลหลักเมือง อันได้แก่ พระทรงเมือง พระเสื้อเมือง พระกาฬไชยศรี เจ้าหอกลองและเจ้าเจตคุปต์ สุดท้ายบูชาพระประจำวันเกิดโดย หยอดเหรียญบาทในบาตรพระ

2.วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)
วัดคู่บ้านคู่เมืองแห่งนี้สร้างในรัชกาลที่ 1 พระพุทธมหามณีรัตรปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต ประดิษฐานอยู่ใน พระอุโบสถ นอกจากนี้ ยังมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์อันสวยงามวิจิตร บริเวณระเบียง การบูชาพระแก้วมรกต เป็นการบูชา เพื่อความมั่งคั่ง หวังให้แก้วแหวนเงินทองไหลมาเทมา สักการะด้วยธูป เทียน ดอกบัวคู่ โดยจุดธูปเทียน หน้าพระแก้วมรกต สวดนะโม 3 จบ ขอพรจากพระแก้วด้วยการขอแก้วแหวนเงินทอง หลังจากนั่นพรมน้ำมนต์
ที่ตั้งอยู่ระเบียงพระอุโบสถ เพื่อสิริมงคลแก่ตัว

3.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
ปัจจุบันวัดโพธิ์เป็นที่รู้จักทั่วโลกในด้านวิชาแพทย์แผนโบราณโดยเฉพาะแขนงการนวดแผนไทย สถานที่ตั้งอยู่ที่ หลัง พระบรมมหาราชวัง ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร เดิมชื่อวัดโพธารามได้รับแต่งตั้ง เป็นพระอาราม หลวงชั้นเอก ภายในพระอุโบสถมีพระพุทธเทวปฏิมากรซึ่งเป็นพระประธานในอุโบสถ และมีพระวิหาร อันเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธไสยาสน์ที่มีความสวยงามล่ำเลิศ ที่ฝ่าพระบาททั้งสองข้างประดับมุกลวดลายภาพมงคล 108 ประการ ผู้คน ที่มานมัสการแนะนำให้ใช้ธูป 9 ดอก เทียนแดงคู่ ทองคำเปลว 11 แผ่นโดยน้อมจิตรำลึกถึง พระพุทธจริยาอันเป็นพระคุณ 3 ประการ คือ พระปัญญาคุณ พระบริสุทธิ์คุณ พระมหากรุณาธิคุณ เพื่อขอความร่มเย็น เป็นสุขในชีวิต

4.ศาลเจ้าพ่อเสือ
ศาลเจ้าพ่อเสือ เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ตั้งอยู่ที่บนถนนตะนาว แขวงเข้าพ่อเสือ เขตพระนคร เป็นการไหว้เพื่อเสริมอำนาจ บารมี โชคลาภ ความสุขและความปลอดภัยของครอบครัว ของที่ต้องเตรียมไปประกอบด้วยส้ม 1 กิโลกรัมและ เครื่องเซ่นไหว้ อย่างหมูสามชั้น ข้าวสุก ไข่ไก่ เทียนแดง 2 เล่ม ธูป 30 ดอก กระดาษเงินและกระดาษทอง ขั้นตอนการไหว้เต็มไปด้วย พิธีรีตองที่น่าสนใจ เริ่มจากวางส้มบนกระดาษเงิน กระดาษทองตรงที่วางของไหว้ ปักธูปครั้งล่ะ 3 ดอก ในกระถางเสมอ โดยเริ่มจาก 5 กระถางกลางด้านหน้า อธิษฐานขอให้ทำมาค้าขึ้น มีเงินมีทอง หลังจากนั้นเดินไปที่หน้า รูปเจ้าพ่อเสือ ถวาย ของเซ่น (หมูสามชั้น ข้าวสุก ไข่ไก่) บนกระดาษเงินกระดาษทอง แล้วปักธูปที่กระถางทั้งซ้าย และขวา ขอพรให้เจ้าพ่อเสือ คุ้มครอง เดินมาด้านหน้าประตู ปักธูปลงในกระถางไหว้ฟ้าดิน จากนั้นย้อนกลับผ่านประตูกลางออกมาด้านนอก ทางด้านซ้ายและขวาจะมีกระถางธูปอีกด้านล่ะใบ ถึงขั้นตอนนี้ธูปจะหมดพอดี จากนั้นเข้า สู่การลา เก็บของไหว้ทั้งหมดที่นำมา โดยเก็บส้มแล้วแบ่งกันรับประทาน ระหว่างสมาชิกในบ้าน เพื่อความโชคดี เผากระดาษเงินกระดาษทองในเตาที่จัดไว้ และยกหมูสามชั้น ข้าวสุก ไข่ไก่ให้กับเจ้าหน้าที่ทางศาลไป กิจกรรมมงคลเสริม คือเติมน้ำมันตะเกียงซ้ายขวาเพื่อความรุ่งโรจน์ ของชีวิต การนำฮู้มาติดที่บ้าน ที่ทำงานหรือติดตัวเพื่อให้แคล้วคลาด จากเคราะห์ การให้ทานหรือสะเดาะเคราะห์เพิ่ม

5.วัดสทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร
ตั้งอยู่บริเวณเสาชิงช้า ตรงข้ามศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เดิมชื่อ วัดมหาสุทธาวาส เป็นประอารามหลวงชั้นเอก ประจำ รัชกาลที่ 8 ความสำคัญสูงสุดอยู่ที่พระศรีศากยมุนี องค์พระประธานเก่าแก่ซึ่งอดีตเคยประดิษฐานอยู่ที่วิหารหลวงวัดมหาธาตุของกรุงสุโขทัย วิธีสักการะทำได้โดยเข้าไปในพระวิหาร กราบพระศรีศากยมุณีองค์จริงด้วยธูปเทียน พวงมาลัย 2 พวง ขอพรให้ท่านช่วยให้เกิดความแจ่มใสในสติปัญญาและการดำเนินชีวิต ให้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ก่อนกลับปิดทอง คำเปลวหลวงพ่อพระศรีศากยะมุณีองค์จำลองหน้าพระวิหารหลวง นอกจากการไหว้พระเพื่อความเป็น สิริมงคลแล้ว ยังสามารถชมความสวยงามของภาพจิตรกรรมฝาผนังอันเป้นฝีมือช่างครูสมัยรัชกาลท่ี 3 อีกด้วย

6.ภูเขาทอง วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
ตั้งอยู่ที่ปากคลองมหานาคเป็นวัดโบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวันสะแก ต่อรัชกาลที่ 1 ทรงสถาปนาขึ้นใหม่
และพระราชทานนามดังเช่นปัจจุบัน งามเด่นด้วยพระบรมบรรพตหรือภูเขาทอง เจดีย์บนยอดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ อยู่ภายใน เชื่อว่าไหว้ภูเขาทองแล้วชีวิตจะประสบความสำเร็จ ไม่มีวันตกต่ำ เคล็ดลับในการสักการะ ให้เดินขึ้นไปที่ ยอดสุดของภูเขาทองจุดธูปเทียนไหว้พระ ปิดทองพระสถูปศิลา เขียนชื่อนามสกุลลงบนกระดาษห่อทอง แล้วหย่อนลง ในบาตรที่วัดเตรียมไว้เพื่อสะเดาะเคราะห์ จากนั้นพนมมือไหว้พระมหาเจดีย์ เดินเวียนขวา 3 รอบ แล้วไหว้อีกครั้งโดย ยกมือสูง ให้ปลายนิ้วอยู่เหนือศรีษะ ในทิศทางของยอดมหาเจดีย์ น้อมรับพลังคุณธรรมอย่างเต็มที่

7.วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร
เดิมชื่อวัดใหม่ ถือเป็นวัดที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากเป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ 6 , 7 และรัชกาลที่ 9 ทรงผนวช ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญหลายองค์ อย่างเช่น พระสุวรรณเขต พระพุทธชินสีห์ พระนิรันตราย และพระพุทธนินนาท งดงามด้วยภาพเขียนฝีมือขรัวอินโข่ง เชื่อว่า สักการะวัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหารแล้วชีวิตจะปลาศจากภัยอัตรายทั้งปวง และผ่อนเคราะห์กรรมจากหนักให้เบาบาง ลง ขั้นตอนแรกเริ่มจากไหว้พระด้านนอกพระอุโบสถ และเข้ามากราบพระพุทธชินสีห์อีกครั้งด้านใน ขอพรจากพระให้ อยู่เย็นเป็นสุข เดินทางปลอดภัย อย่าลืมก่อนกลับ พรมน้ำมนต์ที่ตั้งอยู่ติดกับพระพุทธชินสีห์เพื่อความเป็นสิริมงคล

8.วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร
สถานที่ตั้งอยู่บนถนนจักรพงษ์ แขวงบางลำภู เขตพระนคร วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหารเป็นพระอารามหลวงชั้นโท สร้างสมัยก่อนกรุงรัตนโกสินทร์ กราบพระพุทธรูปปั้งลงรักปิดทอง ปางมารวิชัยองค์ประธาน ในพระอุโบสถหรือเป็นที่ รู้จักกันในนาม พระพุทธนรสีห์องค์จำลอง และกราบพระพุทธรูปประจำวันเกิด ขอพรให้ชนะอุปสรรคต่าง ๆ ก่อนจะ เข้าไปกราบสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทองค์จริงด้วย ธูป 5 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 1 ดอก ซึ่งอยู่ ด้านในสุดของอุโบสถ

9.วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
ตั้งอยู่ที่ถนนอรุณอัมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ขุดพบระฆังใบหนึ่งระหว่างการ บูรณปฏิสังขรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 1 จึงพระราชทานนามใหม่ว่า วัดระฆังโฆษิตาราม วัดแห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของ สมเด็จ พระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ซึ่งเป็นสมเด็จพระราชาคณะในสมัยรัชกาลที่ 4 และพระเถระผู้ทรงเกียรติคุณ รู้จักกันใน ฐานะผู้นำบทสวดศักดิ์ที่ตกทอดจากลังกามาดัดแปลงให้สมบูรณ์จนกลายเป็นคาถาชินบัญชร ตามคติความ เชื่อกล่าวกันว่า หากไหว้สมเด็พระพุฒาจารย์จะมีชื่อเสียงโด่งดังดุจเสียงระฆังและมีคนนิยมชมชอบ ให้ความเอ็นดู เมื่อไปสักการะสมเด็จพุฒาจารย์ ให้จุดธูป 3 ดอก เทียนคู่ ถวายหมากพลู ขอพรโดยการสวดคาถาชินบัญชร ปักธูป ที่กระถางแล้วปิดทองคำเปลว 3 แผ่นที่รูปปั้น เสร็จสิ้นแล้วพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นมงคล หากต้องการสะเดาะเคราะห์ สามารถชื้อหอยขม 1 กิโลกรัม แล้วปล่อยลงแม่น้ำ เพื่อทิ้งความขมขื่น

นอกจาก 9 วัดที่กล่าวมาข้างต้น ยังมีสถานที่ศักดิ์สิทธฺ์อีก 2 แห่งที่หลายท่านนิยมไป นั่นก็คือ วัดอรุณราชวรมหาวิหาร
หรือ วัดแจ้ง และวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เพื่อความรุ่งโรจน์และเพื่อชีวิตที่รายล้อมไปด้วยญาติมิตรและเพื่อนฝูงที่ดี

ที่มา January 2010 Sawasdee