วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ปราสาทตราไค Trakai Castle

    เมืองหลวงเก่าตราไคในยุคกลางศตวรรษที่ 13 อยู่ห่างจากเมืองหลวงใหม่วิลนีอุส 28 กิโลเมตร ใช้เวลานั่งรถไปราว 1/2 ชั่วโมง ถนนในแถบประเทศบอลติกยังเป็นถนนเล็ก 2 เลนรถวิ่งสวนทางกัน ยังไม่มีทางด่วนใช้แบบในประเทศยุโรปแถบตะวันตก เมืองนี้ล้อมรอบด้วย 3 ทะเลสาบ
   เราไปชมปราสาทตราไคอันเป็นที่พำนักของเจ้าเมือง สร้างอย่างแข็งแรงเพื่อป้องกันการโจมตีของ
อัศวินติวเตอร์นิค (ชาวเยอรมัน) ที่ได้รับคำสั่งจากโปป อินโนเซนต์ที่ 3 ให้มาปราบกลุ่มประเทศบอลติก
ที่ไม่นับถือศาสนาคริตส์ เรียกกันว่าสงครามครูเสดเหนือ ตัวปราสาททำเลดีมากตั้งอยู่ปลายแหลมของ
ทะเลสาบ และบริเวณนี้ยังถูกจัดเป็นอุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติ ครอบคลุมพื้นที่ 32 ทะเลสาบกิน
เนื้อที่ทั้งหมด 8200 เฮกเตอร์ น้ำในทะเลสาบยังใช้เป็นน้ำดื่มในกลาง ศ.ต 20 ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดมีชื่อว่า Lake Galve มีเกาะกลางทะเลสาบ 20 เกาะด้วยกัน และตรงกลางระหว่างทะเลสาบ Luka กับ Galve
เป็นที่ตั่งของปราสาท Island Castle หรือเราเรียกกันว่าปราสาทตราไค สร้างใน ศ.ต.14 เป็นเกาะเล็กๆ
ใกล้ชายฝั่งมีสะพานเชื่อมเดินข้ามไปได้ ตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกทำลายพังยับเยิน หลังสงคราม
สงบจึงซ่อมแซมให้สวยงามเหมือนเดิม

จากจุดลงรถริมทะเลสาบ ด้านข้างจะมีของที่ระลึกขาย

จะมองเห็นสะพานทอดข้ามไปสู่ตัวปราสาทมี 2 ช่วงด้วยกัน

เข้าประตูปราสาทจะเห็นอาคารซ้ายมือเป็นที่พักของการ์ด ขวามือเป็นที่พักของเจ้าเมือง ตรงไปในสุดเป็นห้องน้ำ
ในปราสาทส่วนที่เข้าชมเป็นส่วนที่พักเจ้าเมือง แบ่งเป็นห้อง ๆ มี 3 ชั้นด้วยกัน ทำเป็นพิพิธภัณฑ์
อาทิตราประจำเมือง อาวุธ เหรียญเก่า เกราะ ภาพปราสาท ชาวพื้นเมืองที่อพยพมาจากบริเวณ
คาบสมุทรไครเมีย ใกล้ตุรกี เรียกว่า Tartar และ Karaite(ชาวยิว)

ในหมู่บ้านส่วนใหญ่เป็นบ้านคนที่นี่มีร้านอาหาร 2-3 ร้าน

เราทานอาหารกลางวันกันที่นี่บรรยากาศริมทะเลสาบ ช่วงนี้หน้าร้อนอากาศร้อน แห้ง แดดแรงมาก
กลับถึงบ้านยังรู้สึกว่าแขนดำขึ้นเลย หลังอาหารเดินทางขึ้นเหนือของประเทศลิทัวเนีย ใช้เวลาเกือบ  4ชั่วโมง มาถึงเมือง Siauliai ห่างออกไป 10 กม. แวะชมเนินไม้กางเขน Hill of crosses เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เต็มไปด้วยไม้กางเขน จะมีคู่ที่แต่งงานใหม่นิยมมาไหว้ที่นี่ ไม้กางเขนอันแรกเริ่มวางตอน
ศ.ต.14 บ้างก็ว่าเริ่มจากตระกูลนักรบได้เข่นฆ่าศัตรูไปมากมาย จึงสร้างเนินนี้ใช้เวลา 3 วัน 3 คืน บ้างก็ว่า
บิดาที่มีลูกป่วยหนัก จึงสร้างไม้กางเขนขึ้นที่นี่ บ้างว่าพวก Pagan นอกศาสนา เริ่มนับถือศาสนากันที่นี่
ช่วงระหว่างโซเวียดยึดครองประเทศนี้อยู่ ปี 1961ได้ทำลาย ไม้กางเขนเก่าแก่ไปกว่า 2 พันชิ้น
ปี 1990 ไม้กางเขนเพิ่มขึ้นถึง 4 หมื่นชิ้นด้วยกัน 
จากลานจอดรถ มีห้องน้ำค่าเข้า 3 คน 1 ยูโร และร้านขายไม้กางเขน เดินไปตามทาง นิดเดียวก็จะเห็น



ปี 1993 โป๊ป องค์ก่อนได้มาเยือนที่นี่ ปัจจุบันมีไม้กางเขนมากกว่า 1 แสนชิ้น หลากหลายวัสดุทั้งไม้ โลหะ ปูน
จากนั้นเข้าไปชมเมืองซัวย์เล ตรงกับวันอาทิตย์เมืองเลยค่อนข้างเงียบเหงา ร้านค้าปิดกันหมด แล้วเดิน
ทางต่อเข้าสู่เมืองหลวง ริก้า ประเทศแลตเวีย

ไม่มีความคิดเห็น: