เป็นรุ่นที่เท่าไหร่จำไม่ได้แล้วสำหรับ มินิ เอ็มบีเอ เกษตร ปีนี้คนเดินทางน้อยกว่าทุกรุ่น จากไปพร้อมกัน 2 คัน เหลือแค่ 25 ท่านเท่านั้น แต่ก็ดีไม่วุ่นเหมือนทำคณะใหญ่ ๆ เดินทางด้วยสายการบิน Etihad วันที่
ออกรถได้ตอนเกือบ 7 โมงเช้า มีึเวลาเยอะอยู่กว่าจะถึงเวลานัดดูงานที่ บริษัทซีแมน มีเวลาไปเที่ยวกันก่อนซิ เริ่มจาก โอลิมปิคปาร์ค อันเป็นสถานที่จัดกีฬาโอลิมปิค ฤดูร้อน ปี 1972 สภาพดูโทรมไปเยอะเลย คราวนี้เดินเลยไปถึงสระว่ายน้ำ เห็นมีคนว่ายอยู่ในสระ น่าจะเป็นนักกีฬานะ มาซ้อมกัน อากาศข้างนอก 5 องศา มีฝนนิดหน่อย ผ่านโอลิมปิคฮอล์ล ตอนนี้ใช้จัดแสดงงานดนตรี เห็นใบปิดจะมีวงเมททาลิก้า เดือนเมษา และอีกหลาย ๆ วง ใช้เวลาเดินเล่น 1 ชั่วโมง จากนั้นไปเดินเล่นหน้าพระราชวังฤดูร้อนนิมเฟนบูรก์ อีกครึ่งชั่วโมง อากาศเย็นดี มีพวกนกเป็ดน้ำและหงส์ ที่คณะทัวร์หลาย ๆ คนชอบร้องตระโกนว่ามีห่านด้วยนี่ถ้ามันฟังรู้เรื่อง ต้องร้องให้โฮแน่เลย ถูกลดสกุลรุณชาติซะงั้น ว่ายเล่นกันอย่างมีความสุข ไม่สนใครจะมาถ่ายรูปหรือจะมาคุยกันมัน
วันที่ 4 /3/09
ตื่นนอนตอน 6 โมงเช้า จิบกาแฟ ทำธุระเสร็จแล้ว ลงมาตอน 7 โมงเช้า โอโฮ้ ทำไมตื่นกันเช้าจัง นัด
ทานอาหารเช้า ตอน 7.30 น. กะจะทานให้เรียบก่อนนะเนี่ย ลงมาคนนั้นก็ถาม คนนี้ก็ถาม เช่น เพื่อนคนนั้นคนนี้ยังไม่ลงมาเลย ครับ โทรตามให้ครับ ออกกี่โมง อ้าวก็นัดแต่เมื่อวานแล้วนี่ พี่ทำอะไรอยู่ (นึกในใจ) 8.30 น. ครับ
อะไรกันเนี่ย อาหารเช้าที่นี่หน้าตาใช้ได้ทีเดียว หมายถึงอาหารมีเยอะทีเดียว 8.30 ออกได้ตรงเวลาเลย เยี่ยมครับพี่น้อง วันนี้ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมง เพื่อทานอาหารกลางวันที่ ทะเลสาบ Titisee แถว ๆ
วันที่ 5/03/09
ตื่นมาเห็นหิมะขาวโพลนไปหมด บ้างเกาะตามกิ่งสน ดูสดใสสะอาดดีเหลือเกิน ลูกทัวร์ตื่นตาตื่นใจกันยกใหญ่ หิมะกำลังตกหนักซะด้วย หลังอาหารเช้า ก่อนออกรถ ถามทุกครั้งก่อนออกรถ ตรวจสอบทรัพย์สินมีค่านะครับ
พลาสปอตร์ สร้อยคอ แหวน นาฬิกา กระเป๋าตังค์ พร้อมนะครับ ไปโลด วิ่งไปได้เกือบกิโล
“พี่ลืมกระเป๋า”
“ ที่ใหน”
“ตรงโต๊ะนั่งหน้าโรงแรม”
ว่าแล้วเชียวเห็นแวบ ๆ นึกว่าของทัวร์จีนอีกคณะหนึ่ง เห็นกำลังถ่ายรูปอยู่ นี่นะมัวแต่ถ่ายรูปจนลืมทุกสิ่งอย่าง เฮ้อ... จอดรถ บอกคนขับ เอาไงดีไปกลับรถก็วนไกลเลยล่ะ จะจอดก็ลำบากถนนลื่นมีแต่หิมะ ไม่เป็นไรเดี๋ยว
เอ็มวิ่งไปเอาให้ ลงรถได้วิ่งเลยพี่น้อง พอพ้นโค้ง ไม่มีใครเห็นแล้ว เดินซิจะวิ่งให้เหนื่อยทำไม ไปถึงหน้าโรงแรม อ้าว ไม่มี ไงกัน เข้าไปถามเจ้าหน้าที่โรงแรม นั่นไงเห็นแล้ว ค่อยยังชั่วนึกว่าทัวร์จีนซิวไปซะแล้ว กลับไปถึงรถทุกคนตบมือให้กันเกลียว ไม่รู้จะตบทำไม เขิน เหนื่อยนะ
10.30 ถึงน้ำตกไรน์ น้ำตกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุโรป กว้าง 150 เมตร สูง 23 เมตร ถึงช้านิดเพราะต้องทำภาษีที่พรมแดน อากาศค่อนข้างปิด ไม่มีแดดเลยวันนี้ ฝนปอย ๆ ตลอด ชมวิว ถ่ายรูป 45 นาที เดินทางต่อ ถึงเมือง
ลูเซิร์น ทานอาหารเที่ยว สั่งไข่เจียวเพิ่มให้ คิดราคาแล้ว โหดโคตร จานละเกือบ พันบาท ขูดเลือดกันเห็น ๆ หลังอาหาร พาไปถ่ายรูปกับอนุเสาวรีย์สิงโต อันสร้างเป็นที่ระลึกแก่ทหารสวิสการ์ด ที่ปกป้องพระเจ้าหลุยส์ 16 จนเสียชีวิตทั้งกอง 786 นาย ด้วยคำสั่งของหลุยส์ที่ว่า “อย่าทำร้ายประชาชนของข้า” ในคราวปฏิวัติใหญ่ฝรั่งเศสปี 1789 ไปถึงไม่งามเท่าไหร่ มีนั่งร้าน ตั้งอยู่ใต้สิงห์โต คงจะทำความสะอาดอะไรสักอย่าง แล้วให้เวลาซื้อของ
ที่ระลึก มีร้านคนไทย ชื่ออารีย์ ก็ซื้อกันพอหอมปากหอมคอ 15.30 น. เข้าโรงแรม Flora นัดกันว่าได้กระเป๋าเรียบร้อย ลงมาเจอที่ lobby ใช้เวลา 45 น. พาไปเดินช้อปปิ้งในเมือง ส่วนใหญ่ได้แต่ซ็อตโกแล็ต ก็ดี ได้ของที่อยากได้ ทานอาหาร 19.00 น. หลังอาหารมีคนที่ไปคาสิโน 3 ท่าน พาไปแต่ขากลับไม่ไปส่งนะ ติดลมเจอเพื่อนหัวหน้าทัวร์ด้วยกัน สนิทกันก๊วนกอล์ฟเดียวกัน หยอดไปจิบเครื่องดื่มไป เพลิน ๆ เกือบตี 1.30 น. กลับ ถึงโรงแรมนอนดีกว่า น้ำท่าค่อยว่ากันพรุ่งนี้เช้า....คร่อก....ฟี้....
วันที่ 06/03/09
เช้านี้ lobby โรงแรมดูวุ่นวาย เนื่องจากมีคณะอื่น 100 กว่าคน ทานอาหารเช้าไล่ ๆ เวลากัน เป็นทัวร์ไทย
เหมือนกัน ลูกทัวร์ยังตรงเวลาเหมือนเดิม กระเป๋าเรียบร้อย ออกเดินทาง 8 โมงเช้าตรง คนขับรถยังแซวคนที่ลืม
กระเป๋าเมื่อวาน วันนี้ไม่ลืมแล้วนะ ใช้เวลา 1.30 ชั่วโมง ไปถึงกรุงเบิร์น หิมะตกตลอดทาง ไปดูหมีก่อนอันดับแรก ที่บ่อหมี ทางเมืองเลี้ยงสืบทอดกันมาหลายร้อยปีแล้ว เป็นหมีสีน้ำตาล หมีเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ตั้งแต่สร้างเมืองกันมา เห็นหมีแค่ 1 ตัว กำลังเดินรอบ ๆ บ่อ ท่าทางอารมณ์ไม่ค่อยดี ข้าง ๆ กำลังก่อสร้างปรับปรุง ในอนาคตหมีเราจะได้ลงไปเล่นน้ำในแม่น้ำที่อยู่ข้าง ๆ ได้แล้ว เป็นโครงการที่ให้เจ้าหมีอยู่อย่างธรรมชาติที่สุด
จากนั้นนำชมเมืองเบิร์นเมืองหลวงของสวิส เป็นเมืองมรดกโลกด้วย เริ่มจากนาฬิกา ประจำเมือง บอกจักรราศี ข้างขึ้นข้างแรม เวลา เดือน ปี นอกจากเวลาแล้วยังอื่นไม่รู้ว่าทำงานยังไง ชมน้ำพุ ที่อยู่ตามถนนเป็นระยะ
ๆ ผ่านบ้านพักของไอน์สไตน์ ซึ่งเคยมาทำงานที่นี่เกี่ยวกับการจดสิทธิบัตร น่าจะเป็นเหตุผลที่เค้าได้อ่านความคิด
หลาย ๆ คนที่มาจดสิทธิบัตร เดินต่อไปวิหารมึนสเตอร์ มียอดสูง 100 เมตร สูงที่สุดในสวิส พาไปถ่ายรูป ชมวิว
ข้าง ๆ โบสถ์ เข้าชมข้างใน เป็นครั้งแรกที่เข้ามาข้างใน จะมีเวลาเปิดปิดให้เข้าข้างใน ดูเวลาช่วงนี้ปิดค่อนข้างเร็ว
ภายใน ดูค่อนข้างใหม่ ไม่ได้ประดับประดาอะไรมาก เป็นแบบโกธิค น่าจะเป็นโบสถ์โปรแตสแตนน์ ชมเสร็จแล้วให้เวลาช้อปปิ้ง นัดเที่ยงตรงที่ร้านอาหาร มากันเลทนิดหน่อย บรรยากาศร้านดี อาหารรสชาดอร่อย ที่
Kornhaus keller หลังอาหารมี 5 ท่านแยกจากคณะ ให้รถไปส่งที่สถานีรถไฟ ร่ำลากันเรียบร้อยเดินทางต่อ
อีก 2.30 ชั่วโมง ตรงสู่เจนีวา
บ่าย 3 ครึ่ง ไปถึงเจนีวา รถค่อนข้างเยอะ ช่วงนี้มีมอเตอร์โชว์พอดี ให้รถจอด ริมทะเลสาบ ถ่ายรูปกับน้ำพุเจ็ตโดว์ พุ่งสูง 140 เมตร ด้วยเครื่องยนต์เจ็ต 200 แรงม้า ให้เวลาถึง 6 โมงเย็น อาหารเย็นไม่ได้เลี้ยงหาทานอิสระกัน ที่นี่มีร้านนาฬิการเยอะมาก สวย ๆ ทั้งนั้น แต่ราคาแพงระยับ เราก็เดินเล่นดูร้านค้าไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ซื้ออะไร
6 โมง คณะพร้อมเดินทางไปสนามบิน ใช้เวลาแค่ 20 นาที ถึงแล้ว เช็คอินแบบต่างคนต่างเช็ค ห่วงอย่างเดียว
เรื่องน้ำหนัก ก็แม่เจ้าเล่นขนซ็อตโกแลต มาซะแบบเหมาหมดร้านเลย แต่ก็ผ่านไปด้วยดี ไม่มีใครติดอะไร แต่
ก่อนเครื่องออกมีลูกทัวร์ยังไม่มาอีก 4 คน ดีนะแอะใจก่อน ถามเจ้าหน้าที่ที่ประตูขึ้นเครื่องยังขาดอีกเยอะไหม
ที่ขาดของเราทั้งนั้นเลย ประกาศไปก็หลายรอบ สักพักวิ่งมาเป็นแถว ใจเย็นไปหน่อยนะพี่ แต่ผมนะร้อนใจ
ขึ้นเครื่องได้ หลังอาหารหลับยาว ได้ที่นั่งว่าง ๆ แถวยาว ไม่มีใครนั่งข้าง ๆ ด้วย สบายที่สุด
ถึงอาบูดาบี้ 6 โมงเช้า มีเวลาต่อเครื่องเกือบ 4 ชั่วโมง ไปนั่งหลับในเล้าจน์ สายการบิน ทานอะไรหน่อย
กลับมาที่ประตูขึ้นเครื่อง ลูกค้าเข้าเครื่องไปกันหมดแล้ว และเราได้อัพเกรดอีกแล้ว นั่งสบายเลยที่นี้ อาหารดี
ไวน์ดี หลับดี ถึงสุวรรณภูมิ 6 โมงครึ่งกว่า ๆ เจอหน้าลูกทัวร์ถามกันใหญ่ว่าไปไหนมา ไม่เจอตั้งแต่ที่อาบูดาบี้
ตอนก่อนขึ้นเครื่อง จะบอกว่าไปนั่งในเล้าจน์ ก็ดูไม่ดี ตอบไปว่า หลับในห้องที่เค้าละมาดกัน ลูกทัวร์แซวว่า
มิน่าถึงไว้เคราให้ดูกลมกลืมใช่ไหมล่ะ บางท่านยังมาบอกอีกว่า เก่งมากที่หลอกด่าพวกพี่ ๆ ได้ ยังนึกไม่ออก
เลยว่าไปหลอกตอนใหน รับประเป๋าเสร็จ ร่ำลากัน ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับ
น่าจะเป็นทริปที่ดีอีกทริปหนึ่ง ทุกอย่างลงตัวหมด เวลา ที่เที่ยว อาหาร โรงแรม สายการบิน ทำงานสบาย
ไม่กดดัน ข้อมูลให้พื้น ๆ เพราะเวลาพูดชอบคุยกันจัง ไม่คุยก็หลับ มีความสุขทั้ง 2 ฝ่าย
3 ความคิดเห็น:
คราวนี้เล่าละเอียดจังนะ เห็นภาพเลยดีเหมือนกันแหละ ได้รู้อะไรเยอะขึ้น เพราะมิวนิคเนี่ยเค้าได้ไปแค่ตรงโอลิมปิคปาร์กเท่านั้นเอง ...อืมม..ถ้าได้ดูคอนเสิร์ทที่นั่นคงสุดยอดเลยเน้อ+++
เรื่องลูบๆคลำๆแล้วอธิษฐานเนี่ย จำได้ว่าตอนไปบรัสเซลส์กับเอ็ม บอกให้ลูบตัวอะไรซักอย่างแล้วจะได้กลับไปที่โน่นอีก จนป่านนี้ยังไม่มีวีแววเล้ย ...
กำลังอ่านเพลินๆ แต่ยังเขียนไม่จบนี่นา ไว้มาอ่านใหม่นะคะ
มาอ่านต่อจ้า...วันนี้ฮาดี...ขำพระเอกของเราจัง แมนมากๆ ได้ออกกำลังแต่เช้า วิ่ง(เดิน)ซะเหนื่อย น่าเห็นใจจังอายุปูนนี้แล้วนะ อิอิ...
เอ็มเขียนหนังสือได้ดีมากแล้วนะ อ่านสบายๆได้สาระ มีอารมณ์ขัน เป็นสไตล์ของตัวเอง มีเสน่ห์ดีเลยแหละ ได้สัมผัสความรู้สึกอีกด้านนึงของคนทำงาน..น่าจะเอารูปที่ถ่ายมาลงด้วยนะ เพราะที่ให้ดูจากโทรศัพท์วันนั้น
เอ็มถ่ายรูปสวยดีออก
เอ้ย...เกือบลืมคิดบัญชีเลย !!!
ก้อไม่รู้ใครเนอะ ที่ให้ของถูกใจมากมายหลายอย่าง คนรับปลื้ม คนให้ก้อต้องปลื้มด้วยแน่นอนแหละ ใช่เปล่าล่ะ รู้นะ???
สรุปว่าคนน่ารัก ให้ของน่ารัก กับคนน่ารัก เฮ้อ...คิดไปได้เน้อ...
ทริปต่อไป...เซี่ยงไฮ้...ขอให้หนุกหนานกลับมานะ
bon voyage naka
แสดงความคิดเห็น