วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สิงค์โปร


เมอร์ไลออน เซ็นโตซ่า

เด็กน่ารัก

ริมแม่น้ำสิงคโปร์





ไม่รู้ใคร


ตึกสูงย่าน CBD

สิงคโปร์ เมืองเนรมิต 23/06/09

สิงคโปร์วันนี้ ยังคงเปลี่ยนไปตลอดจากการเนรมิตทุกอย่างขึ้นมา ว่าไปประเทศนี้ไม่ค่อยมีความโดดเด่นในวัฒนธรรมของตัวเองนัก พื้นที่น้อย รวมถึงจัดว่าเป็นประเทศใหม่ แต่เค้าก้อพยายามสร้างเอกลักษณ์ของตัวเองผ่านไปทาง
การท่องเที่ยวสิงคโปร์ ที่ชอบคงเป็นตึกเก่า ๆ ที่บ้านเราเรียกว่าทรง ชิโน-โปตุกีส มีให้เห็นที่ภูเก็ตชัดเจนที่สุด ในกรุงเทพ
เมื่อก่อนมีย่านเยาวราช แต่อย่างว่าเราไม่ค่อยอนุรักษ์ของเก่ากันเท่าไหร่ รู้สึกว่าไม่ทันสมัย จึงเปลี่ยนรูปแบบให้ทันสมัยจนขาดคำว่า เสน่ห์ ที่นี่ยังมีให้เห็นเยอะมาก แม้จะดูเป็นห้องแถวธรรมดา หากสังเกตุไปที่ โครงสร้างของเสา ประตู หน้าต่าง จะเห็นมีศิลปะตะวันตกเข้ามาผสมเปเปไปด้วย
ไปถึงสนามบินชางงี ออกมาเกือบ 2 ทุ่มแล้ว การบินไทยลงที่อาคาร 1 ต้องนั่งรถโมโนแรล ที่เชื่อมระหว่างอาคาร 1 กับอาคาร 2 เพื่อไปขึ้น mrt ระบบรถไฟใต้ดิน ของสิงคโปร์ หยอดเหรียญซื้อตั๋ว ไป 2.80 เหรียญ เข้าเมือง เมื่อถึงสถานีปลายทางเราเอาบัตรตั๋วรถไฟ ไปคืนที่ตู้จะได้คืนมา 1 เหรียญ นั่นเท่ากับว่า ค่ารถไฟแค่ 1.80 เหรียญ นับว่าถูกมากหากเทียบกับการเดินทางในกรุงเทพโดยรถไฟฟ้า หรือใต้ดิน เข้าเช็คอินที่โรงแรม YMCA 3 ดาว ราคาราว ๆ เกือบ 100 เหรียญต่อคืน จองตรงกับเว็ปของโรงแรมราคาจะถูก แต่ต้องดูช่วงเวลา ราคาไม่เท่ากัน ห้องไม่ใหญ่เท่าไหร่ รู้สึกห้องจะมีกลิ่นอับ ๆ นิดหน่อย ไม่รู้ชั้นอื่นจะเป็นหรือเปล่า เราพักที่ชั้น 4 เพราะมีระเบียงรวมออกมา พ่นควันได้ เริ่มรู้สึกหิวนิดหน่อย ถามจากเจ้าหน้าที่โรงแรม มีศูนย์อาหารอยู่ใกล้ ๆ โรงแรม ออกจากโรงแรมเลี้ยวซ้าย ถึงไฟแดงเลี้ยวขวา จะเห็น มี 7 ด้วย ที่นี่เปิด 24 ชั่วโมง สั่งก๋วยเตี๋ยวผัดมาจาน รสชาติหวาน เลยไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ แล้วแวะ 7 ได้เบียร์ลีโอ ราคาแพงกว่าบ้านเราเท่าตัว รสชาดเหมือมเดิม เดินกลับโรงแรมนอนเอาแรงก่อน
วันนี้ตื่นมาสายหน่อย ไม่ได้ทานอาหารเช้าในโรงแรม ไม่ใช่หยิ่งนะแต่แค่นึกก็รู้แล้ว่ามีอะไรบ้าง หาอะไรทานข้าง
นอกดีกว่า ช่วงนี้ ที่เกาะนี้เค้ามีช่วงลดราคา เรียกว่า The Great S'pore Sale อารมณ์ว่าลดทั้งเกาะ จากโรงแรมที่ตั้งอยู่ต้น
ถนน Orchard ไม่ไกลกันมากกับย่านช้อปปิ้ง เดินเอาแล้วกัน เริ่มตั้งแต่ 11 โมง ออกเดิน เริ่มจาก McDonald House มีคาร์ฟูลด้วยของก็เยอะพอควร ดูผ่าน ๆ ตามากกว่า ออกมาด้านนอกฝนตกปอย ๆ ข้ามถนนมาเลาะฝั่งซ้ายก่อน ใกล้ ๆ สถานีรถไฟ Somerset มี ห้าง Orchard shopping center เข้าไปมีห้างอิเซตัน ไม่ใหญ่ มีเสื้อผ้าแบรนด์ดังเหมือนกัน และลดราคาเยอะด้วย แต่ที่ลดเยอะมากกว่าครึ่งนะ เลือก ๆดูส่วนใหญ่จะขนาด xxl อะไรนี้แหละ ไม่ใช้ขนาดของคนปกติใส่กัน
ผ่านไปจนถึง Ngee Ann City ห้างที่ใหญ่สุดในถนนนี้ และหรูสุดด้วยสินค้ายี่ห้อแพง เราลงไปศูนย์อาหารชั้นใต้ดินหาของ
ร้อน ๆ ทานดีกว่า ได้ก๋วยเตี๋ยวแกง รสชาติดี สดชื่น อร่อยเลยละ ยังมีพวกร้านขนม อีกเยอะ เหมือนที่นี่จะรวมร้านอร่อยไว้ให้
ชิมกันเลยแหละ สังเกตุหลาย ๆ ร้านจะมี ประวัติเก่าแกติดไว้ให้อ่าน นึกถึงร้านใหนเคยถูกเอาไปเขียนในหนังสืิอพิมพ์เค้าจะ
เอามาติดไว้หน้าร้าน เหมือนกับการันตีความอร่อย อิ่มแล้วเดินต่อ ห้างนี้ของยี่ห้อดังไม่ลดราคา บางยี่ห้อก็ลดแต่ก็ยังแพง
มาก ๆ อยู่ เดินไปจนถึง Forum shopping mall เกือบจะสุดย่านช้อปปิ้งแล้ว แวะพักเหนื่อยจิบกาแฟสตาร์บัค ที่เกาะแทบ
จะมีทุกมุมเลย รวมไปถึงศูนย์อาหารด้วย คงจะเป็นเพราะคนที่นี่อยู่คอนโดเกือบหมด ไม่สะดวกที่จะทำกับข้าว เลยทานนอก
บ้านดีกว่า หายเหนื่อย ข้ามไปเดินอีกฟากถนน ผ่านสถานทูตไทยด้วย ราคาที่ดินตรงนี้นับว่าแพงมหาศาล เห็นรัฐบาลสิงคโปร์เคยเจรจาขอซื้อ แต่เราไม่ขาย เก็บไว้เป็นเกียรติแก่ประเทศดีกว่า เข้าไปเดินเล่นในห้าง Tangs , The Paragon,
Center Point , Orchard Plaza สรุปเดินทั่งวัน ยังไม่ได้อะไรเลย กลับมาโรงแรมเกือบ 3 ทุ่ม เมื่อยมาก
ตื่นมายังง่วง ๆ อยู่เลย เหมือนหลับไม่สนิทเท่าไหร่ อากาศวันนี้ดีมีแดดออกด้วย ไปเกาะเซนโตช่าดีกว่า นั่งรถไฟ
ไปลงสถานี Water front ต่อรถไฟไปที่เกาะได้อีก 3 เหรียญ ตอนนี้กำลังสร้างโรงแรมกับคาสิโน อีกที่ตรงมารีน่า เบย์ ก็ทำ
เป็นคาสิโน เหมือนกัน คงเสร็จปี 2010 คนไทยคงแห่ไปเที่ยวกันอีกแหละ ที่เกาะเซนโตซ่าจะมีรถปรับอากาศนั่งฟรี มี 3 สาย แยกเป็นสี ๆ ดูจากตารางเดินรถจะรู้ว่าถ้าจะไปนี่ต้องนั่งสายใหน ไปดู Under Water World ค่าเข้า 23 เหรียญ ปลา
ที่นี่ตัวใหญ่มาก ถ้าคนชอบดูปลาน่าจะลองดูนะ แล้วไปดูโชว์ปลาโลมา มีอยู่ 3 ตัวเอง ร้อนด้วย คนเยอะอยู่ ยังไม่จบดี ออก
มาคอยรถก่อน กลัวคนเยอะรอคิวนาน กลับมาตั้งหลัก ที่ Imbiah จะไปซื้อตั๋วดู น้ำพุโชว์ Songs of the sea รอบ ทุ่ม 07.40
ตั๋วเต็มมีแต่รอบ 08.40 ไม่รอดีกว่า ตอนนี้ แค่บ่าย 4 โมงเอง อีกนาน เลยตัดสินใจข้ามกลับไปฝั่งโน้นดีกว่า นั่งรถไฟข้าม
เกาะกลับไปที่เดิม เรียกว่า Vivo city เป็นห้างด้วยใหญ่ดีเหมือนกัน ไปหาของอร่อยกินดีกว่าที่ ศูนย์อาหาร Lau pa sat มี
สะเต๊ะ อร่อย ที่เสียบเป็นไม้ ๆ เหมือนบ้านเรา ขายไม้ล่ะ 60 เซนต์ อย่างตึ่งต้องสั่ง 20 ไม้ ตกจานล่ะ 12 เหรียญ มี ไก่กับเนื้อ
ให้เลือกราคาเท่ากัน ไม่มีหมู น่าจะเป็นอิสลามนะ มาพร้อมน้ำจิ้มที่เรียกว่าอาจาด และแตงกว่า หอมหัวใหญ่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
อร่อยดี อาจาดเข้มข้น เราทานกันก๋วยเตี๋ยวผัด วันนี้ไม่ผิดหวัง อร่อยกว่าที่กินวันแรกเยอะเลย หลังอาหาร ไปถ่ายรูปกับ
เมอร์ไลออน สัญลักษณ์ของประเทศนี้ แล้วเดินเลาะไปตามแม่น้ำสิงคโปร์ เห็นงานประติมากรรมริมแม่น้ำน่ารักดี เป็นรูปเด็ก
กำลังจะกระโดดลงไปในแม่น้ำ กับ การค้าขายในสมัยก่อน ผ่านย่าน Boat Quay เป็นย่านกินดื่มมีอาหารขาย แต่ดูคนน้อย
ผ่านแต่ละร้านพยายามขายกันสุด ๆ โปรโมชั่น ลด 20 - 30 เปอร์เซนต์จากบิล ส่วนใหญ่เป็นอาหารทะเล อยากทานปูผัดพริก เห็นว่าอร่อยหนักหนา ถามราคาปูขีดละ 6 เหรียญ ตัวละไม่ล่อเข้าไปเกือบ 100 เหรียญเหรอ เสียดายตังค์กลับมากิน
เมืองไทยดีก่า เดินต่อเลาะริมแม่น้าไปเรื่อย ๆ จนถึง Clarke Quay ย่านกินดื่มอีกย่านหนึ่ง บรรยากาศดีกว่าที่แรก แต่ไม่ได้
นั่งกับเค้าหรอก ดู ๆ บรรยากาศเฉย ๆ แล้วเดินกลับโรงแรม ใหน ๆ ก็เดิมมาเยอะแล้ว อีกแค่ กิโลนิด ๆ เอง ถึงห้องอาบน้ำ
นอนเลย
สละอาหารเช้าอีกแล้ว ไปทานที่ศูนย์อาหาร ใกล้ ๆ โรงแรม คราวนี้เลือกของร้อนอีกแล้ว เป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยว
เค้าจะมีพวกลูกชิ้น เต้าหู้ ผัก ให้เลือก คืบใส่ชาม แล้วเอาไปให้เค้าลวก จะใส่เส้นอะไร น้ำ หรือ แห้ง ก็ว่ากันไป ราคาคิดอย่าง
ละ 60 เซนต์ เลือกไป 10 อย่างได้ อร่อยดี เป็นความตั้งใจที่จะลองอาหารที่ทางการท่องเที่ยวสิงคโปร์แนะนำว่าควรจะมาชิม
แต่ของอร่อย จะมีร้านดังของเค้าอยู่ แต่ดูจากแผนที่ ต้องนั่งแท็กซี่เท่านั้น รถไฟไม่ผ่าน นั่งรถเมล์ไม่เป็น อีกอย่างถ้านั่ง
แท็กซี่ตอนชั่วโมงเร่งด่วน เช้าเย็น ราคาจะบวกเพิ่มจากมิเตอร์อีกเท่าตัว โหดมาก ๆ ถ้าใครไปกรุณาเว้นการนั่งช่วงเร่งด่วน
ยกเว้นจะเหลือใช้ ก็เอาเถอะ แม้จะไม่ได้ไปกินร้านดังแต่ก็ลองกินมาหลายอย่างแล้ว ก็จะมี ก๋วยเตี๋ยวผัด สะเต๊ะ ข้าวมันไก่
บักกุดเต๋ แป้งแครอททอด โรตีแบบอินเดีย อิ่มแล้ว ไปเดินต่อดีกว่า ไปที่ Funan it mall แหล่งรวมสินค้าไอที บางอย่าง
ก็ถูกกว่าเมืองไทย บางอย่างแพงกว่า ดูเหมือน notebook บางยี่ห้องถูกกว่าเมืองไทย สเปคก็สูงโอเคเลย ดูราคาของ pda phone ยี่ห้อ htc Diamond 2 ราคา 1000 เหรียญ สวยดีแต่ทรงยาวไปหน่อยเลยไม่ซื้อดีกว่า ออกจาก Funan ย้อนกลับไป
ที่ Raffle Place ลงไปเดินใต้ดิน ที่เรียกว่า City link mall หลบแดดด้วย มีร้านขายของให้ดูเพลิน ๆ สามารถเดินไปถึง
Suntec city mall ได้ มาถึง Suntec ถ่ายรูปกันน้ำพุ เชื่อกันว่าเดินวน 3 รอบจะโชคดี ที่นี่มี 5 ตึก เชื่อมกันได้เฉพาะชั้นใต้ดิน
กับชั้นสอง มีคาร์ฟูล แต่ไม่ได้เข้าไปเดิน ได้เสื้อมา 3 ตัว เป็นโลโก้ ซุปเปอร์แมน อยากได้มานานแล้ว จ่ายไป 100 เหรียญ
โอเค น่าผ้าดี ใส่เข้าตัวเลย ชอบ ๆ ขากลับ เดินกลับไปทางเดิม ออกจาก Raffle Place จะมีโรงแรม Swisssotel The Stamford ขึ้นไปชั้น 69 จะได้เห็นวิวของเมือง สวยงามมากจิบ S'pore sling รสชาติต้นตำหรับสักแก้ว แต่ก็ต้องจ่ายแพงกับ
ค่าวิว ราคาแก้วละ 23 เหรียญ + + แล้วเดินกลับโรงแรม แวะ 7 ลีโอ 2 ป๋อง ไว้จิบที่โรงแรมต่อ หลับฝันดี
วันนี้กลับแล้ว ออกจากโรงแรม 9.30 น. ลากกระเป๋านั่งรถไฟใต้ดินไปสนามบิน ใช้เวลา 40 น. ก็ถึงสนามบิน
ทำ tax refund ก่อนแล้วไปเช็คอิน ซื้อของถึง 100 เหรียญจะได้ภาษีคืน 7 % เข้าไปเล้าจ์การบินไทย ห่วยจริง ๆ แทบจะไม่มีอะไรให้กินเลย เสียค่าเช่าตั้งแพงจะทำให้ดูดีกว่านี้ก็ไม่ได้ บ่ายโมงถึงกรุงเทพ ฯ ลงมามึน ๆ เหมือนกัน เพราะฤิทธิ์ไวน์
บนเครื่อง ขึ้นไปเรียกแท็กซี่ ชั้นขาออก รถเยอะเลือกได้เลย จบ........

วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

มาเก๊า ยุโรปแห่งเอเซีย 19 - 21 / 06 / 09

ทริปสั้น ๆ 3 วัันสู่มาเก๊า ด้วยสายการบินมาเก๊าแอร์ ตื่นแต่ตี 3 ทำธุระ 1 ชั่งโมง เดินทางเกือบชั่วโมง ถึงสนามบินก่อนตี 5 นิดหน่อย ลูกค้าทยอยมาเรื่อย ๆ ใครเสร็จก่อน ให้เข้าไปข้างในก่อน ใช้เวลาบิน 2.30 ชม. ไปถึงมาเก๊า ใกล้เที่ยง ชอบที่นี่เพราะทำทัวร์ง่าย นั่งรถแป๊ป ๆ ถึงแล้ว อย่างมากไม่เกิน 20 นาที ได้ไกด์ชื่อพี่ปอนด์ ให้ข้อมูลดีทีเดียวไม่เว่อร์มาก บางคนก็ขายของเก่ง แล้วแต่ ส่วนตัวชอบแบบนี้มากกว่า จากเกาะไทปาอันเป็นที่ตั้งของสนามบิน ข้ามสะพานซึ่งมีอยู่ 3 สะพานที่เชื่อมระหว่างเกาะกับส่วนของมาเก๊าที่เป็นคาบสมุทรติดกับจีนแผ่นดินใหญ่ ตอนนี้มีคาสิโน มากกว่า 32 แห่งแล้วยังมีที่กำลังสร้างอีกชื่อ แกเล็คซี่ ใกล้เวเนเชี่ยน
เริ่มต้นด้วยอาหารกลางวันก่อน ในภัตตาคารที่มาเก๊า ที่นี่ไม่ค่อยใช้ช้อนกันเท่าไหร่ขอทีก็จะเหมือนมายากมาก
อาหารจีนที่นี่เหมือน ๆ ฮ่องกง ทานได้กันทุกคน หลังอาหารระหว่างลงมารอรถเห็นพี่ 2 คนขึ้นไปที่ห้องอาหารอีกหายไปนาน
เลยขึ้นไปดูหน่อย ปรากฏกว่าพี่แก่ลืม มือถือไว้ในห้องน้ำ จะเหลือไว้ให้เชยชมเหรอ หายนะสิ ยังโทรติดอยู่นะ ก้อบอกพี่เค้า
โทรไว้ก่อน แล้วช่วยกันเดินไปตามโต๊ะเผื่อจะเจอตัวคนเอาไป สรุปว่าไม่เจอ ดูพี่เค้าก้อเสียดายอยู่นะ เห็นบอกเป็น HTC รุ่น
ใหม่ซะด้วย ไม่เป็นไร เที่ยวกันต่อ หลาย ๆ คนดูเพลีย ๆ อาจจะนอนน้อยกัน แถมอากาศร้อนดีเหลือเกิน พาไป ไหว้อาม่าหรือ
เจ้าแม่ทับทิม ที่สร้างอยู่บนภูเขาที่เกาะโคโลอาน รถทัวร์เราต้องจอดข้างล่าง แล้วต่อรถมินิบัส ส่งขึ้นไปที่วัด ขึุ้นลงฟรี มีทุก
ครึ่งชั่วโมง วันที่เราไปไม่มีคนเลย ไม่ต้องมาแย่งกัน ถึงตรงวัดยังต้องเดินขึ้นเขาไปอีกหน่อยถึงจะเห็นรูปปั้นอาม่า องค์ใหญ่
มากหันไปทางเวเนเชี่ยน จากนั้นเดินลงมาไหว้พระในวัดอีกหน่อย ถึงจะลงไปข้างล่าง รายการยอดฮิตเมือมามาเก๊าต้องเข้า
คาสิโนเวเนเชี่ยน ใหญ่ที่สุดแล้วในตอนนี้ ชั้นบนเป็นช้อปปิ้งมอลล์ รวมสินค้าแบนด์เยอะแยะ ช่วงนี้เริ่มลดราคาแล้ว เราได้
เสื้อยืดของ sisley สีสดใสมา 2 ตัว ลดแล้วตกตัวล่ะ 150 เหรียญฮ่องกง มาที่นี่ ก็ต้อง ไปหยอดเหรียญกับตู้สล๊อตที่นี่ เสีย
ทุกที ไม่เคยได้กับเค้าเลย ผลจะมี 2 อย่าง เล่นได้ กับ ได้เล่น ของเรานี่ผลอย่างหลังซะมากกว่า แล้วไปทานอาหารเย็น พักที่โรงแรม Brewvery Plaza แต่เราไปนอนที่โรงแรม อีกโรงแรมใกล้ ๆ กัน สงสัยจะประหยัดตังค์หรือห้องเต็มก็ไม่รู้ ช่างมัน
นอนได้ก็พอแล้ว ออกมาเดินเล่นแถวโรงแรมมีคาสิโนแบบว่าล้อมรอบเลย คนเล่นก็เล่นกันไป ลูกทัวร์ชุดนี้ไม่มีใครเล่นเลย
ดีเหมือนกัน การพนันเป็นสิ่งไม่ดี รู้ทั้งรู้ยังโดนจนได้
วันนี้เที่ยวในนี้อีกทั้งวัน เริ่มจากไปไหว้วัดเจ้าแม่อาม่า ตั้งอยู่ริมอ่าว ตำนานบอกว่าเ้จ้าแม่่นั่งเรือมาถึงที่นี่แล้ว
ลอยขึ้นไปบนสวรรค์ ดูวัดขลังศักดิ์สิทธิ์ดี ทางเข้ามีศาลเ้จ้าแม่เหมือนกัน แต่ของจริงต้องไปทางขวามือจะมีอีกศาล จะต้อง
ผ่านหินก้อนใหญ่มีการวาดรูปเรือสำเภาโบราณ ไกด์ก็ให้ลูปตั้งแต่หัวเรือจรอปลายเรือนัยว่า จะเดินทางปลอดภัย ได้ทรัพย์
ศาลด้านในใหญ่ขึ้นมาหน่อย ควันธูปเต็มไปหมด เราก็ยกมือไหว้เฉย ๆ ออกมาเดินเล่นข้างนอกดีกว่า เห็นเหมือนจะมีร้าน
ขายอะไรสักอย่าง อารมณ์หิวด้วย ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย เป็นร้านขนมมีทาร์ตไข่ ด้วยขนมดังของที่นี่ ราคาอันละ 6 เหรียญ
ซื้อแจกลูกทัวร์คนละอันด้วยทานตอนร้อน ๆ สุดยอดอย่าบอกใคร ทาร์ตที่นี่จะไม่ทำหวานมาก กำลังดีทีเดียว
ต่อไปไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมริมอ่าว โปตุเกสเป็นผู้สร้างให้ จึงมีเค้าหน้าเหมือนฝรั่งด้วย ไกด์บอกว่ามีเลขมงคล
คือเลข 8 อยู่สามตัวใครหาครบหมดจะโชคดี ก็เจอกันหมดแหละ มีตรงสะพานเดินข้ามไปหาเจ้าแม่ แห่งที่ 2 อยู่ในอาคาร
มองสูงเข้าไว้ แห่งที่ 3 อยู่ตรงเท้าเจ้าแม่ด้านหลัง ตัวนิดหนึ่งต้องตาดีหน่อยถึงจะเห็น โชดดีกันแล้วต่อกันที่ศาลเจ้าแม่
กวนอิม เริ่มจากเข้าประตูต้องก้าวซ้ายนำ ออกขวาไป มีลูปสิงโตอะไรประมาณนี้ ไม่รู้ใครเริ่มก่อนเลยกลายมาเป็นความเชื่อ
แบบไม่มีเหตุผลจนกระทั่งบัดนี้ มี พระพูทธ 3 องค์ และพระยูไล สุดท้ายจึงเป็นเจ้าแม่กวนอิม บางคนไหว้ด้วยธูปเป็นขดใหญ่ สามารถอยู่ได้ 10 - 30 วัน คิดตกค่าธูปวันละ 10 เหรียญ เห็นบอกว่าจะเสมือนว่าได้มาไหว้พระทุกวัน อีกวัดชื่อวัด
หลินฟง ไกด์ก็ไม่เคยรู้ประวัติเหมือนกัน รู้แต่ว่ามีพิพิธภัณฑ์ของขุนนาง หลิน ซี ซู ซึ่งได้มาทำการกวาดล้างฝิ่นที่ระบาด
เข้ามาจีนเมื่อร้อยกว่าปีก่อน จนก่อให้เกิดสงครามฝิ่นขึ้น ในวัดมีที่ไหว้เยอะอยู่แต่ดูแล้วไม่รู้จักเลย ไม่ใช่พระพุทธแน่ ๆ
น่าจะประมาณเทพอะไรสักอย่าง
บ่ายนี้ไปโบสถ์เซ็นต์ปอล ซึ่งไม่มีโบสถ์แล้วเหลือแต่เฉพาะมุขส่วนหน้าเท่านั้น เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยม
มาถ่ายถาพกันมากที่สุด จากโบสถ์เดินลงไปเรื่อย ๆ ผ่านร้านขายขนม หมูแผ่น มีให้ชิมด้วย จนถึงเซเนโดสแควร์ ปล่อยให้
ช้อปถึงเย็น ทานข้าวแล้วกลับโรงแรม คืนนี้ไปเดินที่คาสิโน Wyne ได้เล่นนิดหน่อย ความจริงที่พักก็ใกล้ลิสบัว แต่เคยไป
นอนแล้วเลยไม่ได้เดินไป หลับดีเหนื่อยแล้ว
วันกลับอิสระจนถึงบ่าย 4 โมงเย็น สบายเราไปดูลูกค้าตอนเที่ยง แล้วทานอาหารในโรงแรม เสร็จแล้วตาม
สบายเราเดินไปห้างเยาฮัน แอร์เย็นดี อย่างอื่นดูรู้สึกจะแพง กลับไปที่เซเนโดสแควร์ เมื่อวานเล็งเสื้อยืิดของ Baleno ไว้
ชอบเพราะลายสวยดี ไว้ใส่เล่น ๆ สีเหลืองกับสีขาว จ่ายไป 2 ตัว 150 เหรียญ ขากลับแวะซื้อทาร์ตไข่ร้านดัง Magaret
อันละ 7 เหรียญ ซื้อไป 3 กล่อง ฝากที่บ้าน กล่อง อีก 2 ให้บริษัททัวร์ที่ใจดีให้งานเราทำ ร้านต้องเข้าซอยไปนิดหนึ่ง ปากซอยรู้สึกเป็นไปรษณีย์ นะเดินเข้าไปก็เห็น อากาศร้อนมาก ๆ เดินนิดเดียวเหงื่อตกเลย กลับไปโรงแรมดีกว่า
ไปถึงสนามบิน 5 โมงเร็ว เช็คอินเสร็จ เข้าำไปด้านใน เที่ยวบินช้าไป 1 ชั่วโมง ถึงกรุงเทพ 4 ทุ่ม กลับบ้าน
ดีกว่า เหมือนไปเที่ยวเลยคราวนี้ งานสบาย อาจเป็นเพราะอยู่ที่มาเก๊าที่เดียว บางทัวร์มีเข้าฮ่องกงด้วย ใหนจะลงเรือ ขึ้นเรือ
ให้วุ่นวาย เที่ยวก็ต้องรีบ แบบนี้สบายกว่ากันเยอะ

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

อังกฤษ ช้อปปิ้ง 12 - 19 May 09

ไปอังกฤษ คราวนี้ เป็นรอบที่ 4 ของปีแล้ว ได้งานเพราะมีวีซ่าอยู่แล้ว อย่างนี้เรียกส้มหล่น คณะเป็นผู้เดินทาง
จากคลื่นวิทยุดัง บินด้วยการบินไทยอีกแล้ว แต่เสียดายจังตอนนี้ตั๋วหมู่คณะไม่ให้ไมล์แล้ว งกจริง ๆ ไม่งั้นช่วงหลายเดือนนี้
ควรจะได้ไมล์จากการบินไทยไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นไมล์แน่ ๆ เอาน่ายังมีไมล์เก่า ๆ เก็บไว้พอควร รักษาสถานะบัตรทองไปได้อีกสักปี ผู้เดินทาง 29 ท่าน ค่อยข้างวัยรุ่นหน่อย
เกือบตี 1 เครื่องออกตรงเวลา ไปถึงที่ลอนดอนฮีทโธร์ว 7 โมงเช้า ให้สบาย ๆ ไม่เร่ง รายการค่อนข้างหลวม แต่ก็นั่นแหละวัยรุ่นทำอะไรก็เร็วอยู่แล้ว 8 โมงเข้าขึ้นรถโค้ชเรียบร้อย คนขับชื่อ Ian มาจากแถว ๆ เบอร์มิงแฮม ทำงานดี อัธยาศัยดีใช้เวลา 2 ชั่วโมงลงใต้ไปที่เมืองไบรตัน บอกตามตรงยังไม่เคยไปเมืองนี้เลย อ่านข้อมูลมาพอสมควร เมืองไม่ใหญ่ อยู่ติดทะเลถึงตอน 10 โมง กว่า ๆ ทำไงดี ยังเช้าอยู่เลย ให้คนขับวนชมทะเลหน่อยหนึ่ง เวลาก็ยังเหลือ งี้กัน ให้เดินเล่นตรงท่าเรือ ให้เข้าห้องน้ำกันด้วย บอกจากความน่าจะเป็นว่า ห้องน้ำเดินตรงไปในท่าเรือ แม่นมากมีจริง ๆ ที่นี่เรียกว่า Brighton Pier ทำเหมือนเป็นท่าลงไปในทะเล แต่อันที่จริงไม่ได้ใช้เป็นที่ขึ้นลงเรือหรอก สร้างขึ้นมาเหมือนไว้ชมวิว ในท่าเรือมีสวนสนุก ๆ เล็ก ๆ กับเครื่องเล่นแบบเด็ก ๆ นิดหน่อย มีตู้เกม รวมไปถึงสล๊อตหยอดเงินแบบการพนัน อายุ 18 ถึงจะเล่นได้ มีทั่ว ๆ ไปในเกาะอังกฤษบริเวณท่าเรือ ทำเป็นคันเขื่อนเดินชมวิวริมทะเลได้เป็นกิโล ๆ เลย มีถนนเลียบทะเลให้รถวิ่ง กับทางคนเดิน ไม่มีตึกมาบังให้เสียอารมณ์โรแมนติก แต่หาดไม่สวยนะ คนล่ะเรื่องกับหาดของประเทศไทยเลย ฝรั่งมาถึงชอบนักชอบหนา ต่อกันดีกว่า ในรายการให้ทานอาหารตอนบ่ายโมงตรง ไม่มีอะไรทำแน่ เลยโทรไปบอกขอทานเร็วกว่าเดิม ไม่มีปัญหา ไปทานข้าวกันดีกว่า มื้อแรกเป็นอาหารยอดนิยมในอังกฤษ Fish & chips กินแล้วก็งั้น ๆ จืด ๆ เห็นทานกันได้ดี
หลังอาหารพาเข้าพักโรงแรม Thistle ปกติโรงแรมคลือนี้ดีนะ แต่ไม่ใช้ที่นี่ รู้สึกห้องเก่าไปหน่อย นัดเจอกันที่
ล๊อปบี้ อีกชั่วโมงถัดมา เราไม่ใช้รถแล้ว เดินเอาแล้วกันเพราะโรงแรมอยู่กลางเมืองอยู่แล้ว ถ้าใช้รถจะหาที่จอดยาก เราใช้เวลา 30 นาที่เหลือ ออกสำรวจเส้นทางในเส้นทางที่จะพาเดิน กันพลาดไว้ก่อน ถึงเวลาบางคนก็เดินเองเพราะมีเพื่อนอยู่
ที่นี่ พร้อมแล้วไปกันเถอะเรา พาเดินออกทางหลังโรงแรม ออกไปเจอกับ Town Hall ศาลาว่าการเมือง ถัดไปเป็นย่าน
The Lanes หรือย่านเมืองเก่า แต่ส่วนใหญ่เป็นร้านขายของ น่ารักตรงบ้านย่านนี้แหละ เป็นแบบครึ่งไม้ครึ่งปูนแบบอังกฤษ
ขายพวกเสื้อผ้า ของเก่า จิวเวอร์รี่ เดินผ่านย่านนี้ ไปอีกด้านของถนน จะพบกัน Royal Pavilion สร้างโดย Prince Regent
เมื่อปี 1783 ซึ่งต่อมาได้เป็นพระเจ้า George ที่ 4 ของอังกฤษ ทำเป็นที่พักไม่ใหญ่มากมีสวนรอบ ๆ แต่แปลกตรงสถาปัตยกรรมสร้างแบบอินเดียมีโดมยอดแหลมแบบแขก ๆ ผสมกับจีน ซึ่งน่าจะได้อิทธิพลมาจากการค้าขายกับทางเอเซีย
ข้างในทำเป็นพิพิธภัณฑ์ ไม่ได้เข้าไปเพราะเสียตังค์ พาเดินชมสวน จนไปถึง Churchill Shopping Center ที่ใหญ่ที่สุด
ในเมือง บอกวิธีกลับโรงแรมแล้ว เชิญตามอัธยาศัย แยกย้ายเรียบร้อยเดินเล่นชมเมืองนิดหน่อย ไม่ค่อยมีอะไรสำคัญเท่าไหร่
ส่วนใหญ่เป็นย่านช้อปปิ้ง ของก็คล้าย ๆ ใน ลอนดอน เมื่อยแล้วกลับโรงแรมพักดีกว่า ลงมาเจออีกทีตอนอาหารเย็นใน
โรงแรม ก็พอทานได้ หลังอาหารเข้าห้องเก็บตัวดีกว่า
เช้านี้ออกจากโรงแรม 9 โมงเช้า ไปเมืองวินด์เซอร์ ใช้เวลา 1.45 นาที รถจอดที่จุดจอดเวลายังเหลือพาไปถ่าย
รูปกันหงส์ฝูงใหญ่ริมแม่น้ำเทมส์ มุมเดิมจากภาพเมื่อบล๊อกก่อน ๆ ทานอาหารจีนแถว ๆ นั้น หลังอาหารมีไกด์ไทยพาเข้าชม
พระราชวังวินเซอร์ เราก็เดินไปด้วยเพียงแต่ไม่ต้องพากย์ เริ่มตั้งแต่ส่วนของวังก็มี บ้านตุุ๊กตาของเมรี่ ห้องหับต่าง ๆ อาวุธ
ตราอัศวิน รูปภาพต่าง ประดับประดาสวยดี ออกมาชมโบสถ์เซนต์จอร์ด สร้างโดย เฮนรี่ที่ 8 อ่านเรื่องราวของเฮนรี่ที่ 8
องค์นี้สนุกดี เอามาเล่าได้เป็นชั่วโมง ชมเสร็จเข้าลอนดอนไปถึงก็เย็นแล้ว ทานอาหารเข้าโรงแรม พักที่ Thistle Marble
Arch ติดกับ ถนน oxford ย่านช้อปปิ้งชื่อดัง
วันนี้ออกไปที่เมือง Bicester เพื่อไปช้อปปิ้ง outlet ชื่อเดียวกับเมือง แต่ก่อนจะเข้าไปแวะทานอาหารในเมืองนี้
ก่อน ไปถึงยังไม่ได้เตรียมอาหารอะไรเลย โต๊ะก็ยังไม่จัด อะไรกันนี่ ถามไปถามมาน่าจะไม่เคยรับทัวร์มาก่อน เลยไม่รู้ระบบ
ให้ลูกค้าเปิดเมนูร้านสั่งเอาเลย ดูดีนะ แต่ขอโทษรอนานมาก ใช้เวลากันที่นี่ 2 ชั่วโมงครึ่ง เสียเวลามากเลย แต่ละคนอยาก
จะช้อปกันเต็มเหนี่ยว เราก็เร่งสุด ๆ แล้วแต่ร้านได้แค่นี้ เลยเลี่อนเวลาอาหารเย็นออกไปตอน 2 ทุ่ม คุยอยู่นานมากกว่าจะ
ยอมเพราะเป็นร้านเป็ดย่างชื่อดังของที่ลอนดอน ย่านเบย์วอเตอร์ โอ.เค. ชดเชยเวลาที่เสียให้แล้ว ของที่ outlet ที่นี่ดูดี
ยี่ห้อรู้จักส่วนใหญ่ เสียตังค์กับที่นี่ อีกแล้วได้ เสื้อยืด โปโล ลายขวางมีปกมา 1 ตัว กับลำโพง Bose ipod dock มา 1 ตัว
อันหลังนี่จ่ายไป 220 ปอนด์ ถ้าคืนภาษีแล้วก็ประมาณ 200 ปอนด์ ถือว่าถูกมาก ๆ ในเมืองตั้งราคา 290 ปอนด์ แต่สินค้า
จะมีตำหนินิดนิดหน่อย ส่วนใหญ่จะเป็นรอยขีดข่วน บาง ๆ นิดเดียว ซึ่งร้านจะบอกให้เราทราบก่อนว่ายอมรับได้ไหม เป็น
ข้อดี มาก ๆ ถ้าเป็นประเทศอื่นอย่าหวัง เผลอ ๆ แกล้งทำเป็นไม่เห็นรอยด้วยซ้ำ ดูส่วนใหญ่ได้ของกันเยอะพอดู มีความสุข
กันทั่วหน้า เข้าไปถึงลอนดอน เกือบ 2 ทุ่ม ร้านเค้าก็บ่น ๆ นิดหน่อย เรื่องของแก แต่ขอบคุณที่ยังเก็บโต๊ะรอนะ อร่อยกับ
อาหารเสร็จกลับโรงแรมพักผ่อน
เช้านี้ไปล่องเรือที่แม่น้ำเทมส์ ต้องนั่งรถไปที่เมือง Greenwich ใช้เวลาเกือบชั่วโมง รถเค้าจะส่งตรงสวนกรีนิช
แล้วเดินผ่านสวนเข้าไปจนสุดอีกด้านก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของ เวลา ที่เรียกว่า GMT ที่ 0 เรื่มจากที่นี่ มีหอดูดาว และ หอวิจัย
ตรงจุดนี้จะเห็นวิวส่วนของเมืองได้ ให้ถ่ายรูปแล้วเดินเข้าเมืองมุ่งตรงไปริมแม่น้ำเทมส์ เรือออกจากท่าตอน 10.30 น.
เป็นเรือชั้นเดียว ข้างบนมีดาดฟ้าสามารถขึ้นไปชมวิวได้ ชมวิว 2 ฝากฝั่ง ว่าไปแล้วอาคารที่เรือผ่าน ไม่สวยเท่ากับล่อง
แม่น้ำแซนที่ปารีส ที่นั่นมีอาคารตึกงาม ๆ ให้ดีมากกว่า 11.40 เรือเทียบท่าที่ลอนดอนอายส์ ชิงช้ายักษ์ ให้ถ่ายรูปกับแล้ว
เราก็ไปซื้อตั๋วขึ้นมาแจกให้กับทุกคน ไม่ได้ขึ้นไปด้วย ระหว่างรอ หิวมาก ๆ มีร้านอาหารจีนแบบบุปเพ่่่ต์ จ่าย 5 ปอนด์กินไม่อั้น เอาก็เอา รสชาดธรรมดาหิว ๆ ก้อพอกินได้ ลงมาจากลอนดอนอายส์ พาไปทานอาหารจีนย่านโซโห ตกบ่าย พาไป
ย่านที่เรียกว่า Nothing hill แปลว่าไม่มีภูเขา เป็นที่ถ่ายหนังชื่อเดียวกัน มีคนถามเหมือนกันใหนบ้านพระเอก ใหนร้านของพระเอก ถามให้รู้แต่บ้าน แต่ไม่เหมือนในหนังแล้วเค้าทาสีใหม่ ดูแล้วคนที่นี่เฉย ๆ ไม่เห็นจะสนใจเลย ตลาดที่นี่เป็นที่ขายของแบบแนว ๆ ตลาดนัด ราคาไม่แพงมาก ยกเว้นพวกของเก่าจะแพง ของก็ธรรมดา ๆ ดูบรรยากาศกันมากกว่า ไม่ค่อยได้ของกัน
วันนี้ชมเมืองมีไกด์พากย์ไทยให้ สบายเรา ที่อื่น ๆ เราพาไปหมดแล้ว เหลือแต่หอคอยลอนดอน วังแห่งแรกของ
กษัตริย์อังกฤษ มีมงกฏเพชร คฑา ดาบ และอื่น ๆ ของใช้ในพิธีขึ้นครองราชย์ ตกบ่ายชอปปิ้งย่านโรงแรม อิสระฟรีกันไป
แต่เรารับปากเด็ก ๆ กลุ่มหนึ่งไว้ว่าจะพาไป Camden เป็นย่านเสื้อผ้าแบบแนวร็อค ๆ นั่งรถไฟใต้ดินไปกัน ตอนแรกว่าจะไป
หาเสื้อยือเท่ส์ ๆ แบบเด็ก ๆ บ้าง แต่ดูแล้วไม่น่าจะเหมาะกันเท่าไหร่ แต่ก้อได้มา 2 ตัว แบบไม่แรงยังที่เด็ก ๆ หากันนะ
กลับแล้ววันนี้ แต่ไฟท์มืด ยังต้องทำทัวร์ก่อน เริ่มจาก British Museum ชม หิน Rosetta Stone อันทำให้นัก
โบราณคดีสามารถแกะตัวอักษรภาพของอียิปต์โบราณได้ งานของกรีซโดยเฉพาะหินแกะสลักจากวิหารพาเทนอน
สุเมเรี่่ยน อียิปต์ ล้วนแต่ชิ้นใหญ่ ๆ อลังการงานปล้นเขามา มัมมี่ของอียิปต์ งานของเอเซียเราแต่ไม่เยอะมากแค่ห้องใหญ่ ๆ
ห้องเดียว ปิดท้ายด้วยห้างใหญ่ ใหม่ ล่าสุด Westfield shopping center มี M&S และร้านค้าอีกมากมาย รวมถึงแบรนด์ดัง
พวกหลุยส์ กุชชี่ พาด้า ต่าง ๆ ราว ๆ 6 โมงเย็มถึงสนามบิน ทำภาษีก่อนแล้วเช็คอิน เป็นอันเรียบร้อย กลับมามีความสุขทั่วหน้า
ปล. การเรียกอย่างเป็นทางการ
สหราชอาณาจักร United Kingdom of Great Britain and Northern Ireland
ประกอบไปด้วยดินแดน 4 แคว้น
3 แคว้นอยู่บนเกาะอังกฤษ คือ แคว้นอังกฤษ England แคว้นสกอตแลนด์ และแคว้นเวลส์
1 แคว้นอยู่บนเกาะไอร์แลนด์ คือ แคว้นไอร์แลนด์เหนือ มีน้ำมันดิบเยอะ