วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2551

สิงคโปร์ 14 - 16 ตุลาคม 08

ตอนลงเครื่องมาเจอหัวหน้าทัวร์ ที่รู้จักมาก่อน พอรู้ว่าเรารอกรุ๊ปต่อ ใจดีนั่งเป็นเพื่อน ได้เอสเปรสโซไปแก้วตาสว่างเลยล่ะ คุยพักหนึ่ง เลยบอกให้
เค้ากลับไปก่อน ส่วนเราจะแปลงร่าง ก่อนล่ะ อันที่จริงเสื้อผ้าเตรียมมาแล้วล่ะ เพราะไม่ไว้ใจสายการบินราคาถูก ทุกอย่างถูกหมด ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาประกันจ่ายให้ซักเท่าไหร่เชียว เข้าห้องน้ำล้างหน้าเปลี่ยนชุดใหม่ทั้งหมด ใส่สูทผูกไทด์ หล่อเลย แต่ใบหน้าอาจจะโรย ๆ นิดหนึ่ง ตีห้าไปรอที่เคาร์เตอร์ ยังไม่เปิดเลย ลูกค้ามา
ตอนตีห้ากว่า เป็นอาจารย์ทั้งหมดเลย ไม่ยุ่งยากอะไร เพียงแต่กระเป๋าไม่ให้โหลดกรุ๊ปเท่านั้นเอง บินด้วยสิงคโปร์แอร์ไลน์ ขึ้นเครื่องได้ขอหลับเอาแรงไว้ก่อน เครื่องออกตอน 07.45 ไปถึง 11 นิด ๆ ขึ้นรถแล้วไปทานอาหารเที่ยง ตอนบ่ายไปดูงานโรงเรียน แล้วก็ล่องแม่น้ำสิงคโปร์ อาหารเย็นกลับโรงแรม สภาพเมืองดูเปลี่ยนไปนิดหน่อย นับ ๆ แล้วไม่ได้มาเกือบ 3 ปีเห็นจะได้ ที่เห็นก็มีชิงช้ายักษ์ ที่เรียก Singapore Flyer ค่าขึ้น 29 เหรียญปลาย ๆ ที่กำลังก่อสร้างใกล้มารีน่าเบย์ เป็นคาสิโน ไม่รู้ใครลงทุน คาดว่าอีก 2 ปีคงเสร็จ คงมีคนแห่ไปเล่นอีกเยอะ พักที่โรงแรมแมนดาริน กลางถนนออชาร์ด
ระดับ 5 ดาว ห้องใหญ่ นอนคนเดียวมีความสุขจริง ๆ ออกมาซื้อหนังสือท่องเที่ยว ได้เดนมาร์ก กับ นอร์เวย์ ขาดสวีเดน ไว้ก่อน วันนี้นอนเร็ว ไม่เกิน 5 ทุ่มหลับแล้ว
เช้านี้รู้สึกดีขึ้น ได้นอนเยอะแต่ยังไม่เต็มอิ่มเท่าไหร่ อาหารเช้าก็ดี แต่ยังไม่สมกับ 5 ดาวเท่าไหร่ คงแล้วแต่นอนตึกใหนด้วยแหละ วันนี้เช้าไปดูงานโรงเรียนอีกแห่งหนึ่ง เสร็จ 11 โมง ไกด์พาไปนั่งชิงช้ายักษ์ เป็นรายการพิเศษมีคนซื้อ 18 คน ที่เหลือเดินเล่น ทานอาหารเที่ยง บ่ายไปเซนโตซ่า ด้วยกระเช้า ข้ามไปที่เกาะ โมโนเรลรอบเกาะ รื้อทิ้งไปแล้ว แต่มีอันใหม่มาแทน จากฝั่งเวอร์ดเทรด ไปถึง ที่แสดงน้ำพุ ถึงเกาะเซนโตซ่า ไปดูหนัง 4 มิติ ก่อนเป็นเรื่องเกี่ยวกับโจรสลัด เคยดูที่ดีสนี่ย์แลนด์แล้ว ว่าดีกว่าที่นี่ แล้วไปชมเว็กซ์มิวเซี่ยม หุ่มขี้ผึ้ง นั้นแหละ ปรับปรุงใหม่คล้าย ๆ ของเดิมที่เคยดู แต่ทอนช่วง
สงครามโลกครั้งที่ 2 ออกไปเกือบจะหมด เหลือนิดเดียว แล้วไปขึ้น เมอร์ไลออน ทางเวอร์ ขึ้นไปชมวิว ทานอาหารเย็น ชมโชว์ ตอน 19.45 น. มีตอน 20.45 อีกรอบหนึ่ง คนเยอะเลยล่ะ เมื่อก่อนมาจะดูน้ำพุดนตรี ตอนนี้เปลี่ยนเป็น Song of the sea เป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น มียิงไฟเป็นลูก ๆ กับยิงพุ ด้วย สลับกับน้ำพุ สวยใช้ได้เลย แต่สั้นจัง แค่ 20 นาที จบแล้ว กลับถึงโรงแรม 3 ทุ่ม ออกไปได้หนังสือสวีเดนสมความตั้งใจ ที่นี่ขายแพงกว่าเอเซียบุ๊คอีกนะ 3 เล่มจ่ายไปเกือบ 150 เหรียญ กลับมาอ่านหนังสือ เปิดทีวี เจอรายการแข่งขันกอล์ฟ เลิกอ่านเลยดูกอล์ฟดีกว่า กลับคาทีวีอีกแล้ว
เหมือนเดินเช้านี้มีดูงานโรงเรียน ครึ่งวัน เที่ยงอาหารไทย ที่ตึกซันเทค แล้วชมเมือง จุดที่เรียกว่าแลนดิ้งพอยส์ ที่มีอนุเสาวรีย์เซอร์สแตมฟอร์ดแล้วไปถ่ายรูปกับเมอร์ไลออน ไกด์พาไปลงร้านน้ำหอม ซื้อกันนิดหน่อย หมดเวลาแล้วเดินทางไปสนามบิน เช็คอินเสร็จเข้าไปหาอะไรหม่ำในเล้าจ์ ดีกว่าดีกว่าการบินไทยเยอะเลย มีอาหารด้วย กินหมี่ผัดกับสตูเนื้อ ขอบอกสุดยอดมาก ๆ ในเมืองไทยหาได้ที่ใหนเนี่ย ถึงกรุงเทพ ทุ่มกว่า ส่งลูกค้าขึ้นรถ กลับบ้าน เฮ้อ เหนื่อยเหมือนกันรับงานต่อกันแบบนี้ ด้วยความงก คุณภาพงานก็ไม่ค่อยดี คราวหน้าเอาใหม่ แบบยุโรปต่อยุโรปเลยเป็นไง สวัสดีครับ

1 ความคิดเห็น:

ooOhhoo กล่าวว่า...

เอสเปรสโซ อะไรกัน M150 มากกว่ามั้ง
ถึงได้พลังใจเกิน100ขนาดนั้นน่ะ
ทริปต่อไปคงโหดน่าดู
รออ่านต่อนะ เตรียมตัวดีๆล่ะ SuperM(an)

ปล.เราว่าร้านคิโนะคูนิยะ ที่เซ็นทรัลเวิร์ล น่าเดินน่าซื้อกว่าเอเซียบุ๊คนะ
มีให้เลือกเยอะดี ราคาไม่เวอร์มากด้วยแหละ
แล้วซื้อที่กั้นหนังสือได้ยัง?ไว้ดูให้นะ