วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม



วันนี้เที่ยวกรุงโรมเต็ม ๆ วัน โรม 1 วันไม่เคยพอ ด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2000 ปี มีสถานที่เก่าแก่ควรค่าแก่การไปเยือนเยอะแยะมากมาย เราเริ่มจากไปนครวาติกัน ชมพิพิธภัณฑ์วาติกันที่รวบรวมของล่ำค่าไว้มากมายทุกยุคทุกสมัย ด้วยและเวลาอันจำกัดไกด์จะนำชมเพียงบางส่วนเท่านั่น หากจะชมทั้งหมดคงมีเป็นวัน ๆ แน่นอน แรก ๆ ดูทุกคนตื่นเต้นที่จะเข้าไปชมแต่พอเดินเยอะขึ้นก็เริ่ม ห่าง ๆกันแล้ว ความสนใจลดลงตามกำลังวังชา ส่วนเราแปลจากไกด์อีกทีหนึ่ง ขนาดเราผู้แปลยังรู้สึกว่าทำไมไกด์บอกชื่อแต่ล่ะชื่อเราแทบจะต่อเรื่องราวไม่ถูกเลยตอนหลังมานั่งนึก แกเล่นบอกชื่อเป็นภาษาอิตาเลี่ยนนี่เองเราถึงรู้สึกว่าไม่คุ้นเลย อันที่จริงชื่อบุคคลเรียกแบบภาษาอังกฤษก็มี เลยรู้สึกสับสนพอควรเหมือนกัน เอาตัวรอด
แบบกล้อมแกล้มไปได้ เริ่มชมจากห้องโรมัน ส่วนใหญ่เป็นงานหินอ่อนแกะสลัก รูปเทพเจ้าทั้งหลาย แท่นฝังศพของ
จักรพรรคิโรมัน ห้องผ้าทอมือเป็นรูปต่าง ๆ ผืนใหญ่มากแต่ละผืนใช้เวลาทอเป็นปี ๆ กว่าจะเสร็จ ห้องแผนที่ มีภาพแผนที่ของเมืองต่าง ๆ ตอนยังไม่รวมชาติอิตาลี สุดท้ายไปจบที่วิหารซิสทีน อันโด่งดังที่สุดฝีมือของนายมิเคลันเจโล เป็นภาพวาดสีปูนเปียก ในห้องนี้ห้ามถ่ายภาพห้ามเสียงดัง ตอนเข้าพิพิธภัณฑ์มาจะมีหลาย ๆจุดที่ให้ไกด์อธิบายภาพในวิหารนี้ ชมวิหารซิสทีนเสร็จ ออกมาสามารถชมวิหารเซ็นต์ปีเตอร์ต่อได้เลย ไม่ต้องออกไปข้างนอกเข้าคิวใหม่อีก เซ็นต์ปีเตอร์ ถือเป็นโป๊ปองค์แรกของคาทอลิก วันนี้ในวิหารรู้สึกให้แสงมากว่าปกติ นักท่องเที่ยวก็ยังเยอะเหมือนเดิม

ซุ้มประตูทางเข้าพิธิภัณฑ์วาติกัน ไมเคิลแองเจโรรูปซ้าย ขวาราฟาแอล 2 สุดยอดศิลปินที่รังสรรค์ให้วาติกัน

เทพอเทมิส Artimis เคยเห็นที่ Ephesus ตุรกี

วิหารเซ็นต์ปีเตอร์

นักบุญปีเตอร์หรือเปโตร ชาวคาทอลิกขอพรด้วยการจูบเท้าซ้ายของพระองค์มานับหลายร้อยปี สึกจนไม่เห็นนิ้วเท้าแล้ว

เที่ยววาติกันเสร็จก็เที่ยงพอดี หลังอาหารนำคณะสู่โคลอสเซี่ยม สนามกีฬาอายุเกือบ 2000 ปี แต่พังไปหมดแล้วที่เป็น
จากภายนอกบูรณะขึ้นมาใหม่ทั้งสิ้นด้วยการใช้หินของเดิมมาประกอบเข้าใหม่ ส่วนภายในสนามยังพอจะเห็นเค้าโครงเดิม
อยู่บ้าง

ภายในสนามกีฬา มุมซ้ายล่าง จำลองให้เห็นลานสมัยก่อน ส่วนชั้นล่างสุดเป็นที่ขังนักโทษและสัตว์ดุร้ายที่จะมาสู้กัน

จะสังเกตุว่าบางส่วนก็ยังใหม่ เห็นได้ชัดเจน ในยุโรปเวลาบูรณะอันใหนใหม่ เก่า สามารถแยะแยะได้เลย

จากนั้นไปชมน้ำพุเทรวี่ ซึ่งไม่ใช่น้ำพุที่สวยที่สุดแต่มีชื่อเสียงมากที่สุด แล้วเดินไปต่อที่บันไดสเปน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับ
ประเทศสเปน เพียงแต่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานฑูตสเปนประจำวาติกัน ก่อนนั้นเป็นที่นัดหมายของวัยรุ่น นึกถึงบันไดหน้าสยาม
สแควร์สมัยก่อน เวลานัดกันที่บันได คงมีการถามให้ชัดเจนว่าบันไดใหนกันแน่ อ๋อบันไดใกล้สถานทูตสเปนไง ก็ด้วยเหตุนี้
แถบนี้ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าราคาแพง สถานที่แห่งนี้จึงไม่เคยเงียบเหงาเลย

บันไดสเปน สร้างปี 1723-6 เป็นบันไดทางขึ้นโบสถ์ Trinita dei Monti โบสถ์ฟรานซิสกันแห่งแรกในโรม

น้ำพุ Barcccia

ด้านหน้าคือถนน Via Condotti เต็มไปด้วยร้านค้าดังมากมาย

หมดวันแล้ว 1 วันในโรมเที่ยวได้แค่นี้เอง ทานอาหารเย็นกลับโรงแรม ชวนไปไนท์ทัวร์ต่อแถวจัตุรัสนาโวน่า ไม่มีใครไปกะเราเลย คงจะเหนื่อยกัน หากดูหนังเรื่องนางฟ้ากับซาตาน มีบาทหลวงถูกจับถ่วงน้ำที่น้ำพุแห่งนี้

น้ำพุแห่งแม่น้ำทั้งสี่สาย Four Rivers คงคา ไนล์ ดานูป ริโอเดอลาพลาต้า


เลยเดินเล่นมาเอง จากโรงแรม 15 นาที ย่านนี้คนเยอะร้านอาหาร บาร์ มีให้เลือกเยอะแยะเลย ซื้อไอติมทานแถว Pantheon
อร่อย ดึกแล้ว 4 ทุ่มกว่า ๆ กลับโรงแรมดีกว่า ก่อนที่จะมืดไปกว่านี้ กลัวโดนจี้ไม่ใช่อะไรหรอก

ไม่มีความคิดเห็น: